5 เรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้ของ “เรอัล โซเซียดัด”

#KMDxLaLiga | ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรอัล โซเซียดัด สโมสรฟุตบอลในลาลีกา สเปน ได้ยกระดับการเล่นให้มีมาตรฐานสูงขึ้น จนยากที่ทีมคู่แข่งจะเอาชนะได้ง่ายๆ และกลายเป็นทีมที่ได้ไปฟุตบอลยุโรปต่อเนื่องทุกปี

เรอัล โซเซียดัด จะพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยเลกแรก เปิดบ้านที่เรอาเล่ อารีน่า พฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม ก่อนที่เลกสองจะไปเยือนโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในอีก 7 วันข้างหน้า

หนล่าสุดที่โซเซียดัด ดวลกับแมนฯ ยูไนเต็ด ในถ้วยยุโรป เป็นเกมยูโรป้า ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 2022/23 ต่างฝ่ายต่างชนะนอกบ้านด้วยสกอร์ 1 – 0 ซึ่งโซเซียดัดจบตำแหน่งแชมป์กลุ่มด้วยผลต่างประตูได้-เสียที่ดีกว่า

“ลา เรอัล” เป็นหนึ่งในทีมฟุตบอลที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีความเป็นท้องถิ่นนิยมสูง ควบคู่ไปกับการเติบโตและการสร้างความสำเร็จในสนาม และนี่คือ 5 เรื่องราวที่คุณอาจไม่เคยรู้ของทีมดังจากแคว้นบาสก์ทีมนี้

คว้าแชมป์ลาลีกา 2 สมัยติดต่อกันในยุค 80s

ย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษที่ 1980 เรอัล โซเซียดัด คว้าแชมป์ลาลีกา 2 สมัยติดต่อกัน ในฤดูกาล 1980/81 และ 1981/82 ซึ่งในยุคนั้น มีสุดยอดผู้รักษาประตูในตำนานอย่างหลุยส์ อาร์โกนาดา ที่โชว์การเซฟประตูแบบเหนือชั้นสุดๆ

นัดปิดซีซั่น 1981/82 เรอัล โซเซียดัด เอาชนะแอธเลติก บิลเบา 2 – 1 ในศึกบาสก์ ดาร์บี้แมตช์ ทำให้“ลา เรอัล” ป้องกันแชมป์ลีกสูงสุดของสเปนได้สำเร็จ ด้วยการมีคะแนนมากกว่าบาร์เซโลน่า ทีมรองแชมป์อยู่ 2 แต้ม

‘โตแช็ค’ กุนซือที่ดีที่สุดตลอดกาลของสโมสร

จอห์น โตแช็ค อดีตผู้จัดการทีมชาวเวลส์ เคยคุมทีมเรอัล โซเซียดัด มาแล้ว 3 รอบ (1985-1989, 1991-1994 และ 2000-2002) พาทีมชนะ 126 จาก 322 เกม เป็นผู้ครองสถิติกุนซือที่ลงคุมทีม และคว้าชัยมากที่สุดของสโมสร

สำหรับอิมานอล อัลกูอาซิล เฮดโค้ชคนปัจจุบันของโซเซียดัด พาทีมชนะไปแล้ว 110 จาก 245 เกม ที่ได้คุมทีมในลีกสูงสุดของสเปน และหากเขายังอยู่กับสโมสรต่อไป ก็มีโอกาสสูงที่จะทุบสถิติของโตแช็คได้อย่างแน่นอน

ปรับปรุงรังเหย้าสำหรับยุคใหม่ของสโมสร

เรอัล โซเซียดัด ใช้สนามเรอาเล่ อารีน่า (เดิมชื่อ เอสตาดิโอ เด อาโนเอต้า) เป็นสนามเหย้ามาตั้งแต่ปี 1993 ซึ่งมาจากชื่อของ เรอาเล่ เซกูรอส (Reale Seguros) บริษัทประกันภัยของสเปน ที่เข้ามาเป็นสปอนเซอร์ให้กับสโมสร

สนามแห่งนี้เคยถูกมองว่ามีบรรยากาศที่ค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากมีลู่วิ่งล้อมรอบสนาม ต่อมามีการปรับปรุงสนามครั้งใหญ่ ด้วยการรื้อถอนลู่วิ่ง รวมถึงมีการตกแต่งใหม่ให้สวยงาม เข้ากับการเริ่มต้นยุคใหม่ของโซเซียดัด

เคยทำศึกดาร์บี้แมตช์ ในนัดชิงโกปา เดล เรย์

ในประวัติศาสตร์ 122 ปี ของฟุตบอลถ้วยโกปา เดล เรย์ มีเพียงครั้งเดียวที่คู่ชิงชนะเลิศ เป็น 2 ทีมคู่ปรับจากแคว้นบาสก์ เรอัล โซเซียดัด กับ แอธเลติก บิลเบา ในฤดูกาล 2019/20 แต่เลื่อนไปเตะในปี 2021 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19

สำหรับศึกบาสก์ ดาร์บี้ ในรอบชิงโกปา เดล เรย์ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เป็นโซเซียดัดที่ชนะไป 1 – 0 จากจุดโทษของมิเกล โอยาซาบัล คว้าแชมป์รายการเมเจอร์หนแรกในรอบ 34 ปี และเป็นโทรฟี่แรกในชีวิตกุนซือของอิมานอล อัลกูอาซิลอีกด้วย

จบท็อป 6 มา 5 ซีซั่นติดต่อกันในยุคอัลกูอาซิล

อิมานอล อัลกูอาซิล เข้ามารับตำแหน่งกุนซือเรอัล โซเซียดัด ในช่วงกลางฤดูกาล 2018/19 ได้อันดับที่ 9 ในลาลีกา แต่หลังจากนั้น เขาพาทีมจบอยู่ใน 6 อันดับแรกของลีกสูงสุด ติดต่อกันทั้ง 5 ฤดูกาลที่คุมทีมแบบเต็มซีซั่น

อันดับที่ดีที่สุดของโซเซียดัด ในยุคของอัลกูอาซิล คือการคว้าอันดับที่ 4 เมื่อฤดูกาล 2022/23 ได้สิทธิ์ไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี และสามารถคว้าแชมป์กลุ่มเหนืออินเตอร์ มิลาน ทีมดังจากอิตาลี

เรอัล โซเซียดัด เป็น 1 ใน 6 สโมสรสเปน ที่ยังอยู่ในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยยุโรป ฤดูกาลนี้ การดวลกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในครั้งนี้ มีความสำคัญสำหรับลาลีกา ที่กำลังลุ้นตั๋วไปแชมเปี้ยนส์ ลีก 5 ทีมในฤดูกาลหน้า

5 มีนาคม 2568 17:00:10 โดย sw88.admin 9 ยอดผู้ชม