ไปกันต่อ!! เรือทำเสียว โดนก่อนแซง 2-1 ตัดเชือกเจ้าป่า


เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกไปแซงชนะทีมแกร่งอย่างบอร์นมัธ 2-1 ในเกมที่ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ พลาดโทษครึ่งแรกและถูกนำ 1-0 ก่อน นิโก้ โอเรลลี่ ลงสำรองเป็นซูเปอร์ซับครึ่งหลังจ่าย 2 ให้ ฮาลันด์ และ โอมาร์ มาร์มุช ทำคนละประตูรักษาความหวังคว้าแชมป์สุดท้ายซีซั่นนี้ไว้ได้ด้วยการตบเท้าเข้าไปพบ นอตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในรอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพ ต่อไป

บอร์นมัธ
Starting Formation: 4-2-3-1

13.

เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า

5.

มาร์กอส เซเนซี่

27.

อิลเลีย ซาบาร์นยี่

20.

ฮูลิโอ โซเลร์

4.

ลูอิส คุ๊ก

19.

จัสติน ไคลเวิร์ต

12.

ไทเลอร์ อดัมส์

10.

ไรอัน คริสตี้

9.

เอวานิลซอน

24.

อองตวน เซเมนโย่

7.

เดวิด บรุคส์

ตัวสำรอง

15.

อดัม สมิธ

45.

มาตาย อคินม์โบนี่

11.

ดานโก้ ออตตาร่า

8.

อเล็กซ์ สกอตต์

43.

เซน ซิลกอตต์-ดูเบอร์รี่

47.

เบน วินเตอร์เบิร์น

21.

ดาเนี่ยล เยบบิสัน

40.

วิลเลียม เดนนิส

23.

เจมส์ ฮิลล์

ผู้จัดการทีม

อันโดนี่ อิราโอล่า

เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ

สนาม ไวตาลิตี้ สเตเดี้ยม
วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2568
กรรมการ สจ๊วร์ต อัตต์เวลล์

บอร์นมัธ
1
2
แมนเชสเตอร์ ซิตี้

1-0 เอวานิลซอน 21′
1-1 ฮาลันด์ 49’1-2 มาร์มุช 63′

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บิ๊ก 6 ทีมสุดท้ายในเอฟเอ คัพ ปีนี้ จัดทีมชุดใหญ่เยือนบอร์นมัธ ในสถานการณ์ที่พวกเขาต้องการชัยชนะเพื่อลุ้นแชมป์รายการสุดท้ายของตัวเองต่อไป

10′

เกมช่วงแรกยังใกล้เคียงกัน
สตาร์ตเกม 10 นาทีแรก เกมใกล้เคียงกันมาก ทั้งสองทีมพยายามเล่นเกมรุก สร้างโอกาสได้พอสมควรแต่ยังไม่จะแจ้งพอจะเป็นประตูขึ้นนำ

12′

บอร์นมัธทำแฮนด์บอลเสียจุดโทษ
แมนฯซิตี้ มาได้จุดโทษจังหวะ อดัมส์ ทำแฮนด์บอลในกรอบ

14′

ฮาลันด์ยิงโทษพลาดติดเซฟเกป้า
ฮาลันด์ รับหน้าที่สังหารยิงไม่ดี ไม่เข้ามุมมากพอโดนเกป้าอ่านทางทิ้งตัวรับเอาไว้ได้

16′

ฮาลันด์หลุดเดี่ยวยิงเบิดอีก
ไม่ใช่วันของฮาลันด์ จังหวะนี้เขาหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับเกป้า แต่ซัดข้ามคานออกหลังไปอย่างน่าผิดหวัง

21′

ยิงไม่ได้โดนเลย บอร์นมัธพลิกนำ 1-0
มีโอกาสทำไม่ได้ แมนฯซิตี้โดนซะเอง จังหวะนูเนซเสียบอลกลางสนาม โดนบอร์นมัธตอบโต้บอลมาจบที่ ไคลเวิร์ตกึ่งยิงกึ่งผ่านที่่เสาไกล เหมือนโดนไม่เต็มแต่กลายเป็นดี ลูกวิ่งมาเข้าทางเอวานิลซอนได้ชาร์จจ่อๆ ไม่เหลือซาก 1-0

30′

เกมรุกเรือแทบไม่ได้ลุ้นตีเสมอเลย
หลังเสียประตู แมนฯซิตี้ พยายามเซ็ตบอลเข้าทำ แต่เกมรุกของพวกเขาทำอันตรายให้เกมรับบอร์นมัธไม่ได้เลย

38′

บอร์นมัธเกือบได้อีกลูกจากเซเนซี่
บอร์นมัธ เกือบได้อีกลูกจากฟรีคิกของบรุคส์ แต่เซเนซี่ เข้าฮอสที่เสาไกลไม่ทัน

HALF TIME

46′

ครึ่งหลัง เรือส่งโอเรลลี่แก้เกม
เป๊ปกลับเข้าไปแก้เกม ครึ่งหลังแมนฯซิตี้แก้เกมส่ง โอเรลลี่ ลงเล่นแทนคูซานอฟ

49′

โอเรลลี่แผลงฤทธิ์จ่ายให้ฮาลันด์ยิง 1-1
อยู่ในสนามไม่กี่นาที โอเรลลี่ ก็สร้างผลงานเลยเมื่อได้บอลหลุดทางซ้ายก่อนจ่ายเรียดให้ ฮาลันด์ เข้าฮอาสที่เสาไกลไล่ตามตีเสมอ 1-1 สำเร็จ

60′

เกมเรือดีขึ้นกว่าเดิม
ภาพรวมแมนฯซิตี้ทำได้ขึ้นกว่าครึ่งแรก

61′

ฮาลันด์เจ็บ ส่งมาร์มุชเล่นแทน
ฮาลันด์ มีปัญหาบาดเจ็บต้องเปลี่ยนตัวออกส่ง มาร์มุช ทำเกมรุกแทน

63′

มาร์มุชอยู่แปปเดียวยิง 2-1
มาร์มุช อยู่ในสนามแปปเดียวยิงได้เลย จากโอเรลลี่ ที่ไปแย่งบอลมาจากเซเมนโย่ไปจ่ายให้หัวหอกอียิปต์ปิดบัญชี 2-1

66′

มาร์มุชอีกครั้งถูกเซฟบนเส้น
แมนฯซิตี้ได้ใจบุกต่อ คราวนี้มาร์มุชได้โหม่งถูกเซฟบนเส้น พยายามซ้ำแต่ไม่ทัน

82′

กุนโดกันซัดชนเสาน่าได้
แมนฯซิตี้บุกต่อและเกือบได้อีกลูกจาก กุนโดกัน ยิงไปชนเสา

เกมทดเจ็บ 7 นาที แต่แมนฯซิตี้ไม่พลาดเข้าป้ายชนะบอร์นมัธ 2-1 ผ่านเข้ารอบตัดเชือกเอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-2-3-1

31.

เอแดร์ซอน

3.

รูเบน ดิอาส

45.

อับดูคอดีร์ คูซานอฟ

24.

ยอสโก้ กวาร์ดิโอล

27.

มาธีอัส นูเนซ

17.

เควิน เดอ บรอยน์

19.

อิลคาย กุนโดกัน

8.

มาเตโอ โควาซิช

9.

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์

47.

ฟิล โฟเด้น

20.

แบร์นาร์โด้ ซิลวา

ตัวสำรอง

14.

นิโก้ กอนซาเลซ

11.

เจเรมี่ โดกู

75.

นิโก้ โอเรลลี่

18.

สเตฟาน ออร์เตก้า

10.

แจ๊ค กรีลิช

7.

โอมาร์ มาร์มุซ

22.

วิตอร์ เฮส

82.

ริโก้ ลูอิส

87.

เจมส์ แมคอาตี้

ผู้จัดการทีม

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า