โดนไวไม่เป็นไร! ปธ.เป้เบิ้ล ‘ราชัน’ รัวแซงพัลมาส 10 คน 4-1 ขึ้นฝูง


เรอัล มาดริด ทำเอาแฟนบอลใจหายใจคว่ำเมื่อโดนนำตั้งแต่ 26 วินาทีแรกของเกม แต่ก็มารัวแซงชนะ ลาส พัลมาส ที่เหลือ 10 คน ด้วยสกอร์ 4-1 ได้ประตูจาก คีเลียน เอ็มบัปเป้ เหมาคนเดียวสองลูก ที่เหลือเป็น บราฮิม ดิอาซ และ โรดรีโก้ พร้อมทำแต้มแซงหน้า แอตเลติโก้ มาดริด ขึ้นไปนำจ่าฝูงเรียบร้อย

เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-2-3-1

1.

ธิโบต์ คูร์กตัวส์

17.

ลูคัส บาซเกซ

87′

35.

ราอูล อเซนซิโอ

22.

อันโตนิโอ รูดิเกอร์

76′

20.

ฟราน การ์เซีย

8.

เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้

19.

ดานี่ เซบาญอส

84′

11.

โรดรีโก้

84′

5.

จู๊ด เบลลิงแฮม

21.

บราฮิม ดิอาซ

76′

9.

คีเลียน เอ็มบัปเป้

ตัวสำรอง

13.

อันเดร ลูนิน

26.

ฟราน กอนซาเลซ

4.

ดาวิด อลาบา

76′

18.

เฆซุส บาเญโฆ่

23.

แฟร์กล็องด์ เมนดี้

31.

ฆาโคโบ รามอน

39.

ลอเรนโซ่ อกวาโด้

87′

36.

เชมา อันเดรส

84′

15.

อาร์ด้า กูแลร์

76′

16.

เอ็นดริค

84′

ผู้จัดการทีม

คาร์โล อันเชลอตติ

ลาลีกา สเปน

สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
อาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568
กรรมการ อเลฆานโดร ควินเตโร่

เรอัล มาดริด
4
1
ลาส พัลมาส

1-1 คีเลียน เอ็มบัปเป้ 18′ (Pen.)2-1 บราฮิม ดิอาซ 33’3-1 คีเลียน เอ็มบัปเป้ 36’4-1 โรดรีโก้ 57′
0-1 ฟาบิโอ ซิลวา 1′

เรอัล มาดริด หมดสิทธิ์ใช้งาน วินิซิอุส จูเนียร์ และ ลูก้า โมดริช ที่ติดโทษแบนทั้งคู่

ด้าน เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า เจ็บเพิ่ม ตามสมทบ ออเรลิยอง ชูอาเมนี่, ดานี่ การ์บาฆาล และ เอแดร์ มิลิเตา

ฝั่งของ ลาส พัลมาส ไม่มี โฆเซ่ กัมปานญ่า, ดาลี่ย์ ซิงค์กราเฟ่น และ บิติ ที่มีอาการบาดเจ็บ

1′

ซิลวา ชาร์จจ่อ ๆ ให้พัลมาสนำอย่างว่อง 1-0
เริ่มเกมได้เพียง 26 วินาที พัลมาส ทำเซอร์ไพรส์ขึ้นนำก่อน โมเลโร่ เลี้ยงตะลุยก่อนฝากบอลให้ ซิลวา รับบอลแล้วส่งต่อให้กับ ซานโดร ครอสให้ ซิลวา โฉบแท็บอินคนเดียวจ่อ ๆ เข้าไป

3′

บราฮิม แปโล่ง ๆ ออกเหลือเชื่อ
มาดริด อดได้ประตูตีเสมอเร็วแบบเหลือเชื่อ โรดรีโก้ พลิ้วเข้าไปในเขตโทษก่อนเปิดยัด บอลทะลุไปถึง บราฮิม ยืนโล่งคนเดียวแต่แปออกหลังเฉยเลย

8′

เจ้าบ้านบุกหนัก! เอ็มบัปเป้ ซัดติดเซฟ
หลังโดนนำ มาดริด ก็บุกหนักหวังเอาประตูตีเสมอให้ได้ เอ็มบัปเป้ ได้ยิงลูกนี้ไปติดเซฟ ซิลเลสเซ่น ออกหลัง

18′

เอ็มบัปเป้ ซัดจุดโทษให้ราชันตีเสมอ 1-1
มาดริด ได้จุดโทษ โรดรีโก้ โดน ซานโดร ทำฟาวล์ในเขตโทษ แล้วก็เป็น เอ็มบัปเป้ สังหารเข้าไปไม่เหลือ เจ้าบ้านตามตีเสมอแล้ว

25′

เกือบแซง! บราฮิม ซัดเข้าซอง ซิลเลสเซ่น
เจ้าบ้านครองเกมได้เหนือกว่าแล้วก็บุกจนเกือบได้ประตูแซงขึ้นนำ บราฮิม อัดด้วยซ้ายข้างถนัดมีแฉลบเล็กน้อยแต่ไปตรงตัว ซิลเลสเซ่น อย่างน่าเสียดาย เบลลิงแฮม จะตามไปซ้ำแต่ไม่ทัน

28′

เอ็มบัปเป้ ปั่นโค้ง ๆ ติดเซฟหวุดหวิด
ใกล้เคียงเรื่อย ๆ สำหรับ มาดริด จังหวะนี้ เบลลิงแฮม จ่ายให้ เอ็มบัปเป้ ไปรออยู่แถวหน้ากรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนปั่นโค้ง ๆ เกือบจะฮุกเข้าแต่ ซิลเลสเซ่น ยังปัดไว้ได้

30′

ซิลเลสเซ่น งานชุก! ต้องปัดลูกยิง โรดรีโก้
เกมผ่านไปครึ่งชั่วโมง ซิลเลสเซ่น ต้องออกแรงเซฟไปแล้ว 4 ครั้ง แล้วลูกนี้ โรดรีโก้ เกือบใส่สกอร์ให้ มาดริด อีกครั้ง อัดด้วยขวาเต็ม ๆ โดนปัดออกหลังได้อีก

33′

บราฮิม ยิงจ่อ ๆ มาดริดแซงนำ 2-1
และแล้ว มาดริด ก็ได้ประตูแซงขึ้นนำจนได้ บอลเซตจากแดนหลัง อเซนซิโอ จ่ายให้ เอ็มบัปเป้ หนีแดนกลางทีมเยือนก่อนปั่นติดเซฟ ซิลเลสเซ่น แต่ไปเข้าทาง บาซเกซ ใจกว้างแตะให้ บราฮิม เหยียดเท้ายิงจ่อ ๆ เข้าไป

35′

เบลลิงแฮม วอลเลย์แต่โดนบอลไม่เต็ม
หลังพลิกนำ เจ้าบ้านคึกคักเลย บราฮิม ไปถึงสุดเส้นแล้วตบเข้าในให้ เบลลิงแฮม วอลเลย์แต่โดนไม่ดี บอลเลยเข้าซอง ซิลเลสเซ่น

36′

เอ็มบัปเป้ แปสวยให้ราชันนำห่าง 3-1
มาดริด มาได้ประตูที่สาม จากจังหวะที่ โรดรีโก้ หลุดมาทางซ้ายก่อนจ่ายให้ เอ็มบัปเป้ แปหนีมือ ซิลเลสเซ่น เข้าไปสวยงาม มีลุ้นแฮตทริกแล้ว

42′

VAR ดึงคืน! เอ็มบัปเป้ อดแฮตทริก
มาดริด อดได้ประตูที่สี่ โรดรีโก้ หลุดไปจ่ายให้ เอ็มบัปเป้ แปโล่ง ๆ เข้าไป แต่ VAR เช็คว่ามีจังหวะล้ำหน้าก่อน

45+2′

เอ็มบัปเป้ โฉบยิงหลุดเสาแรก
ใกล้เคียงที่จะทำแฮตทริกอีกครั้งสำหรับ เอ็มบัปเป้ ลูกนี้ วัลเวร์เด้ อย่างโล่งเลยแล้วมีเวลาเปิดให้ เอ็มบัปเป้ เข้าชาร์จเสาแรกหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย

HALF TIME

48′

บราฮิม ยิงเบาไป ซิลเลสเซ่น รับสบาย
เริ่มครึ่งหลังไม่นานเจ้าบ้านก็ได้ลุ้นประตูอีก บราฮิม เล่นกับ เอ็มบัปเป้ ได้สวย ก่อนจบที่ บราฮิม ยิงแต่ไปตรงตัว ซิลเลสเซ่น

49′

เบลลิงแฮม แตะหนีโกล์แต่ยิงไม่เข้า
มาดริด เกือบจะได้ประตูที่สี่ เซบาญอส แทงอย่างสวยให้ เบลลิงแฮม หลุดไปแตะหนี ซิลเลสเซ่น ได้แล้ว แต่มุมมันแคบเลยยิงเข้าข้างหน้าต่าง

57′

โรดรีโก้ ก็ยิงด้วย! ราชันนำขาด 4-1
เกมนี้ เอ็มบัปเป้ เล่นได้เด่นมาก ๆ เขาเป็นคนเก็บบอลไว้ก่อนจ่ายให้ การ์เซีย วิ่งโอเวอร์แลป ก่อนตบเข้าใน โรดรีโก้ แปเข้าไปง่าย ๆ เป็นประตูที่สี่ให้เจ้าบ้านแล้ว

64′

พัลมาสเหลือ 10 คน! เบนิโต้ โดนใบแดง
สถานการณ์ของ พัลมาส ย่ำแย่ลงไปอีก เบนิโต้ สกัดแล้วเท้าไปย่ำโดนบริเวณเอวของ บาซเกซ กรรมการเช็ค VAR ก่อนแจกใบแดงโดยตรงเลย

73′

ราชันอดได้ลูกห้า! VAR ริบประตู เบลลิงแฮม
มาดริด อดได้ประตูที่ห้าจากจังหวะฟรีคิก ซิลเลสเซ่น ออกมาตัดบอลไม่ขาด เบลลิงแฮม ยิงสวนเข้าไป แต่ VAR เช็คว่า รูดิเกอร์ ล้ำหน้าก่อน

76′

อลาบา คืนสนามในรอบ 13 เดือน!
แฟนบอลมาดริดเฮกันทั้งสนามเมื่อ อลาบา ถูกส่งลงเล่นเป็นตัวสำรอง ซึ่งเป็นนัดแรกในรอบ 13 เดือน หลังจากได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าอย่างหนัก

79′

เบลลิงแฮม เหยียดเท้ายิงหลุดน่าเสียดาย
เอ็มบัปเป้ เกมนี้เด่นจริง ๆ จังหวะนี้เปิดไซด์ก้อยอย่างสวยให้ เบลลิงแฮม พยายามเหยียดเท้ายิงแต่หลุดกรอบ

86′

วัลเวร์เด้ ยิงอย่างสวยแต่ล้ำหน้า
ราชันอดได้ประตูที่หก วัลเวร์เด้ อุตส่าห์ยิงอย่างสวยเสียบสามเหลี่ยม แต่บอลล้ำหน้าจากจังหวะของ บาซเกซ คนจ่ายแล้ว

90+1′

ซิลเลสเซ่น ปัดอีก! เบลลิงแฮม เกือบยิงลูกห้า
เบลลิงแฮม เกือบยิงประตูที่ห้าให้เจ้าบ้าน แต่ ซิลเลสเซ่น ไม่ยอม ปัดทิ้งออกหลังไว้ได้หวุดหวิด จริง ๆ บอลก็ไม่ได้ห่างตัวนัก

จบเกม เรอัล มาดริด เปิดบ้านแซงชนะ ลาส พัลมาส 4-1 เก็บเพิ่มเป็น คะแนนจาก 20 เกม ขึ้นมาเป็นจ่าฝูง

นัดหน้าลูกทีมของ คาร์โล อันเชลอตติ จะเปิดบ้านเจอกับ ซัลซ์บวร์ก ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คืนวันพุธนี้

ลาส พัลมาส
Starting Formation: 4-2-3-1

1.

แยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น

4.

อเล็กซ์ ซัวเรซ

28.

ฆวนมา เอร์ซ็อก

46′

15.

สก็อตต์ แม็คเคนน่า

3.

มิก้า มาร์โมล

5.

ฆาบี้ มูนญอซ

23.

อเล็กซ์ มูนญอซ

58′

19.

ซานโดร รามิเรซ

80′

20.

คีเรียน โรดริเกซ

10.

อัลเบร์โต้ โมเลโร่

58′

37.

ฟาบิโอ ซิลวา

69′

ตัวสำรอง

13.

ดินโก้ ฮอร์กาช

35.

อิสราเอล โมร่า

27.

วาเลนติน เปซโซเลซี่

11.

เบนิโต้ รามิเรซ

46′

12.

เอ็นโซ่ โลโยดิซ

58′

14.

มานูเอล ฟุสเตร์

58′

24.

อัดนัน ยานาไซ

33.

เซร์คิโอ วิเอร่า

9.

มาร์ค การ์โดน่า

80′

16.

โอลี่ แม็คเบอร์นี่

69′

17.

ไฆเม่ มาต้า

ผู้จัดการทีม

ดิเอโก้ มาร์ติเนซ