เรือแห้ว 2 ปีติด! ‘ดีน’ ตังเมเรียกพ่อ ‘พาเลซ’ 1-0 แชมป์ FA
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อกหักในเกมชิงดำเอฟเอ คัพ 2 ฤดูกาลติดต่อกันแม้เป็นฝ่ายเปิดฉากบุกแต่ยิงไม่ได้ ดีน เฮนเดอร์สัน ตังเมเข้าสิงเซฟจุดโทษและป้องกันลูกยากๆ อีกหลายหน บวกประตูจากการสวนกลับของเอเบเรชี่ เอเซ่ ทำให้คริสตัล พาเลซ ชนะหวิว 1-0 ได้ถ้วยแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร
คริสตัล พาเลซ
Starting Formation: 3-4-2-1
1.
ดีน เฮนเดอร์สัน
5.
มาแซงซ์ ลาครัวซ์
6.
มาร์ค เกฮี
61′
26.
คริส ริชาร์ดส์
18.
ไดจิ คามาดะ
20.
อดัม วอร์ตัน
87′
3.
ไทริก มิตเชลล์
12.
แดเนี่ยล มูนญอซ
14.
ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า
78′
10.
เอเบเรชี่ เอเซ่
7.
อิสไมล่า ซาร์
ตัวสำรอง
25.
เบน ชิลเวลล์
2.
โจเอล วอร์ด
19.
วิลล์ ฮิวจ์ส
87′
21.
โรแมง เอสเซ่
9.
เอ็ดดี้ เอ็นเคเตียห์
78′
55.
จัสติน เดเวนนี่
30.
แมตต์ เทอร์เนอร์
8.
เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา
61′
17.
นาธาเนี่ยล ไคลน์
ผู้จัดการทีม
โอลิเวอร์ กลาสเนอร์
เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ
สนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม
เสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2568
กรรมการ สจ๊วร์ต แอตต์เวลล์
คริสตัล พาเลซ
1
0
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
1-0 เอเบเรชี่ เอเซ่ 16′
คริสตัล พาเลซ ได้ข่าวดีอดัม วอร์ตันผ่านฟิตมายืนแดนกลางกับไดจิ คามาดะ สามประสานแดนหน้ามาครบทั้งมาเตต้า, เอเซ่ และซาร์ ด้านแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปรับทัพหลายตำแหน่งแต่ส่งแนวรุกลงเพียบทั้ง ฮาลันด์, โดกู, ซาวินโญ่, เดอ บรอยน์ และแบร์นาร์โด้ ซิลวา
6′
ฮาลันด์เกือบได้!เฮนเดอรืสันเซฟทัน
ซิตี้เกือบขึ้นนำแล้ว เดอ บรอยน์เปิดเร็วเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายฮาลันด์ยืดขามาถึงได้ยิงบอลกลับมาเข้ากรอบแต่เฮนเดอร์สันล้มตัวปัดไปได้ทัน
12′
โอเรลลี่ย์ได้โขก
เตะมุมของซิตี้ทางขวาเปิดยาวไปทางเสาไกลโอเรลลี่ย์ได้ขึ้นมาโขกสวยแล้วแต่ยังไปตรงเฮนเดอร์สันปัดทิ้งมาก่อน
14′
อาคันยีได้โขกเตะมุมอีก
เตะมุมอีกหนทางขวาเหมือนเดิมของ เรือใบสีฟ้า เปิดมาในกรอบหกหลาแล้วเป็นอาคันยีขึ้นมาได้โหม่งแต่คราวนี้ขวิดออกไปเอง
16′
เรือช็อค!พาเลซสวนเอเซ่ซัดตุง 1-0
แต่ว่าพาเลซบุกหนแรกมีสกอร์เลย เป็นการสวนกลับเร็ว มาเตต้าพลิกได้ก่อนจ่ายออกริมเส้น มูนญอซหลุดมาทางขวาก่อนเปิดเข้ากลางบอลเลยมาเตต้าที่เสาแรกแต่ยังมีเอเซ่กระโดดยิงตรงจุดโทษบอลพุ่งผ่านออร์เตก้าเข้าไป 1-0!!!
20′
ออร์เตก้าเซฟ!ซาร์เกือบบวกประตูสอง
พาเลซ เกือบได้อีกประตู เอเซ่เปิดออกขวาให้มูนญอซหลุดเข้ากรอบเขตโทษขวาก่อนเปิดเข้ากลางมีทางซาร์โฉบมายิงเสาแรกสวยแล้วแต่ออร์เตก้ายังก้มไปเซฟได้ทัน
24′
เฮนเดอร์สันหวาดเสียวปัดบอลนอกกรอบ
จังหวะปัญหาเลยเมื่อเฮนเดอร์สันจะรอให้บอลเข้ากรอบเขตโทษแต่ฮาลันด์วิ่งมาจะถึงเลยเอามือไปปัดบอลทิ้งกรรมการไม่ว่าอะไร VAR ทำงานก่อนปล่อยผ่านเพราะเท้าของนายด่านผู้ดีอยู่ในเส้นกรอบเขตโทษ
33′
เรือได้จุดโทษ!มาร์มูชยิงพลาดเฮนเดอร์สันเดาถูก
เรือใบสีฟ้า มาได้จุดโทษเมื่อแบร์นาร์โด้ลากบอลเข้ากรอบเขตโทษขวาแล้วถึงบอลก่อนโดนมิตเชลล์มาเสียบล้มลงไปกรรมการรอก่อนเป่า VAR ขอเช็คว่าแบร์นาร์โด้ทิ้งตัวก่อนหรือไม่สุดท้ายให้ยิง แล้วเป็นมาร์มูชเอาบอลมาตั้งก่อนยิงด้วยขวาแต่เฮนเดอร์สันเดาถูกพุ่งเซฟบอลกระดอนมาฮาลันด์พยายามซ้ำแต่โดนไม่ดีเฮนเดอร์สันกลับมาคว้าได้อีก
43′
เฮนเดอร์สันอย่างหนึบ!เซฟลูกปั่นโดกูอีก
โดกูกระชากมาทางซ้ายก่อนหักเข้ากลางแล้วเข้ากรอบเขตโทษก่อนปั่นไปทางเสาไกลแต่เฮนเดอร์สันพุ่งปัดมือเดียวก่อนเกฮีช่วยโขกสุดท้ายเดอ บรอยน์หวดออกหลังไปเอง
HALF TIME
46′
เรือลงมาบุกใส่
ลงมาถึงซิตี้เกือบได้ประตูตีเสมอเลย ซาวินโญ่หลุดมาทางขวาก่อนเปิดไปทางเสาไกล ริชาร์ดส์โขกได้ก่อนที่ฮาลันด์จะถึงแล้วจังหวะซ้ำของโดกูก็ไปติดบล็อคอีก
49′
โดกูได้ปั่นยังออกหลัง
โอกาสอีกครั้งซาวินโญ่หลุดมาทางขวาเหมือนเดิมก่อนเปิดแล้วบอลหลุดไปถึงโดกูทางเสาไกลจับนิ่งๆ ก่อนพยายามปั่นออกหลังไปเอง
57′
คามาดะเซฟ!แบร์นาร์โด้ยิงเหน่งติดบล็อค
โดกูทะลุช่องให้แบร์นาร์โด้หลุดโล่งในกรอบเขตโทษซ้ายก่อนพยายามง้างยิงแต่ยังมีคามาดะพุ่งล้มตัวหวางก่อนบังบอลออกหลังไปอีก
58′
มูนญอซซ้ำเข้าโดนจับล้ำหน้า
ดิ อีเกิ้ลส์ ได้เฮอีกแล้วจากบอลทุ่มไกลที่กวาร์ดิโอลโหม่งออกมาแล้วมูนญอซยิงยัดบอลแฉลบซาร์แล้วตามมาซ้ำมุมแคบเข้าไป แต่ VAR มาเช็คพบว่า ซาร์ยืนตำแหน่งล้ำหน้าตอนแรกทำให้โดนยึดประตูคืน
61′
เกฮีเจ็บเล่นต่อไม่ไหว
พาเลซต้องเปลี่ยนตัวแล้วเมื่อเกฮี เล่นต่อไม่ไหวเปลี่ยนเอาเจฟเฟอร์สัน เลอร์มาลงมาแทน
72′
KDB ปั่นเข้าขมับวอร์ตัน
เดอ บรอยน์ได้ง้างเท้าซัดด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษบอลพุ่งไปชนหัวของวอร์ตันที่ขยับมาขวางล้มลงไปเลยต้องให้หมอมาดูอาการพักใหญ่
75′
โอเรลลี่ย์หลุดแล้วดันช้าไป
เดอ บรอยน์แทงทะลุช่องให้โอเรลลี่ย์หลุดเข้ากรอบเขตโทษแล้วแต่ดันช้าเกินไปโดนมูนญอซมาจิ้มบอลด้านหลังไม่ได้ยิง
82′
ดีนเซฟอีกแล้ว!เอเชเวอร์รี่อัดตรงตัว
เดอ บรอยน์จ่ายอย่างเหนือให้เอเชเวอร์รี่จับโล่งๆ ก่อนซัดด้วยขวาแต่ไปตรงตัวเฮนเดอร์สันแล้วจังหวะตามซ้ำก็ไม่ได้อีก
86′
มูนญอซยิงไม่ได้ผ่านหน้าประตู
พาเลซมีโอกาสทำประตูอีกหน มูนญอซเติมมาในกรอบเขตโทษขวาก่อนตัดสินใจยิงทันทีแต่บอลผ่านหน้าประตูออกไปทางเสาไกล
90+3′
KDB ดีดบอลหลุดเสา
โดกูลากไปสุดเส้นหลังจนได้เปิด ลาครัวซ์โขกเคลียร์ออกมาเข้าทางเดอ บรอยน์จับก่อนดีดด้วยขวาแต่บอลเลี้ยวออกเสาขวามือไปเอง
90+6′
เอเชเวอร์รี่ยิงติดดีนอีก
เฮนเดอร์สันมาออกแรงเซฟอีกแล้วคราวนี้เป็นลูกยิงของเอเชเวอร์รี่ที่ได้แปด้วยขวาแต่ไปตรงตัวของนายด่านผู้ดีอีกครั้ง
พาเลซแชมป์แรกในประวัติศาสตร์ปราบเรือ 1-0
ในที่สุดคริสตัล พาเลซยันอยู่เอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 คว้าแชมป์แรกของสโมสรที่ก่อตั้งมานานกว่า 120 ปีไปครองอย่างยิ่งใหญ่
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-2-3-1
18.
สเตฟาน ออร์เตก้า
24.
ยอสโก้ กวาร์ดิโอล
3.
รูเบน ดิอาส
75.
นิโก้ โอเรลลี่ย์
25.
มานูเอล อาคันยี
7.
โอมาร์ มาร์มูช
76′
17.
เควิน เดอ บรอยน์
20.
แบร์นาร์โด้ ซิลวา
89′
9.
เออร์ลิ่ง ฮาลันด์
11.
เจเรมี่ โดกู
26.
ซาวินโญ่
76′
ตัวสำรอง
31.
เอแดร์ซอน
19.
อิลกาย กุนโดกัน
89′
47.
ฟิล โฟเด้น
76′
45.
อับดูโคดีร์ คูซานอฟ
10.
แจ็ค กรีลิช
30.
เคลาดิโอ เอเชเวอร์รี่
76′
14.
นิโก้ กอนซาเลซ
27.
มาเตอุส นูเนส
22.
วิคเตอร์ เฮส
ผู้จัดการทีม
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
18 พฤษภาคม 2568 00:35:06 โดย
sw88.admin
1 ยอดผู้ชม