เรอัล โซเซียดาด VS แอธเลติก บิลเบา : ประวัติศาสตร์ของศึก บาสก์ ดาร์บี้
#SSxLaLiga | ศึกดาร์บี้แห่งแคว้นบาสก์ใน ลาลีกา คือหนึ่งในเกมที่ไม่เหมือนใครในโลกฟุตบอล โดยการแข่งขันระหว่าง แอธเลติก บิลเบา แห่งเมืองบิลเบา และ เรอัล โซเซียดาด จากเมืองซาน เซบาสเตียน นั้นมีความหมายที่ลึกซึ้งเกินกว่าฟุตบอลเพียงอย่างเดียว
ความเป็นปฏิปักษ์ทางประวัติศาสตร์ของสองเมืองใหญ่ของแคว้นบาสก์ ระหว่าง บิลเบา เมืองแห่งอุตสาหกรรม กับ ซาน เซบาสเตียน เมืองแห่งชนชั้นสูง ได้ถูกแสดงออกผ่านกีฬาเมื่อฟุตบอลเข้ามาถึงในช่วงต้นศตวรรษที่ 20
การแข่งขันแบบกระชับมิตรระหว่างสองสโมสรเริ่มต้นขึ้นทันที และเมื่อมีการก่อตั้งลีกระดับภูมิภาคของแคว้นบาสก์ในปี 1913 การแข่งขันระหว่างทั้งสองทีมก็ได้รับสถานะอย่างเป็นทางการ โดยดาร์บี้แมตช์ที่โด่งดังมากครั้งหนึ่งในช่วงแรกเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1914 ซึ่ง แอธเลติก บิลเบา เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 3-2 โดยประตูแรกของเกมมาจาก ปิชิชี่ กองหน้าระดับตำนานของ โลส เลโอเนส
ความเป็นคู่แข่งยังคงดำเนินต่อไปเมื่อฤดูกาลแรกของ ลาลีกา เริ่มต้นขึ้นในปี 1928/29 โดยทีมจากเมือง บิลเบา พลิกสถานการณ์จากการตามหลัง 0-2 กลับมาชนะด้วยสกอร์ 4-2 ในดาร์บี้แมตช์แรก
เตลโม ซาร์ร่า ตำนานของ แอธเลติก บิลเบา เป็นผู้ทำประตูสูงสุดของศึกนี้ในประวัติศาสตร์ของ ลาลีกา ด้วยจำนวน 14 ประตู รวมถึง 5 ประตูในชัยชนะ 7-1 ที่ ซาน มาเมส ในปี 1950 ส่วนอีกฝั่ง เฆซุส มาเรีย ซาตรูสเตกี ดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของ ลา เรอัล ทำไป 13 ประตูจาก 16 นัด ที่เขาลงเล่นในศึกดาร์บี้นี้ช่วงยุค 1960s และ 1970s
ช่วงต้นทศวรรษ 1980 ถือเป็นยุคทองของวงการฟุตบอลบาสก์ โดย ลา เรอัล คว้าแชมป์ ลาลีกา ได้ถึง 2 สมัยในปี 1980/81 และ 1981/82 และตามมาด้วย แอธเลติก บิลเบา ซึ่งคว้าแชมป์ได้สำเร็จในอีก 2 ปีถัดมา โดยดาร์บี้แมตช์ในฤดูกาล 1983/84 เกิดขึ้นในวันสุดท้ายของฤดูกาลที่ ซาน มาเมส เมื่อ อินญิโก้ ลิเซรันซู กองหลังตัวกลางของ แอธเลติก บิลเบา ยิงได้ 2 ประตูช่วยให้ทีมเอาชนะไป 2-1 ซึ่งทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ ลาลีกา ครั้งล่าสุดจากทั้งหมด 8 ครั้ง
จนถึงปัจจุบัน มีการแข่งขัน “บาสก์ ดาร์บี้” ในศึก ลาลีกา ทั้งหมด 155 นัด โดย แอธเลติก บิลเบา ชนะไป 63 ครั้ง, เรอัล โซเซียดาด ชนะ 53 ครั้ง, และเสมอกัน 39 นัด
หนึ่งในแมตช์ที่สำคัญที่สุดเกิดขึ้นใน รอบชิงชนะเลิศ โกปา เดล เรย์ ฤดูกาล 2019/20 ซึ่ง เรอัล โซเซียดาด เอาชนะไปได้ 1-0 จากลูกจุดโทษของ มิเกล โอยาร์ซาบาล
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีนักเตะมากมายที่เคยเล่นให้กับทั้งสองสโมสร รวมถึง ไกซ์ก้า การิตาโน่ อดีตกองกลางและอดีตโค้ชของ แอธเลติก บิลเบา ด้วย อย่างไรก็ตาม มีเพียงสองคนเท่านั้นที่เคยทำประตูให้ทั้งสองทีมในศึกบาสก์ ดาร์บี้ ได้แก่ ราฟา อิริออนโด้ กองหน้าในยุค 1950s และ 1960s และ เปโดร อูรัลเด้ กองหน้าช่วงทศวรรษ 1980s
ในช่วงหลังมานี้ ความตึงเครียดระหว่างสองสโมสรยังคงสูง โดยในเดือนมกราคม 2018 แอธเลติก บิลเบา ดึงตัว อินญิโก้ มาร์ติเนซ ปราการหลังชาวสเปน (ปัจจุบันอยู่กับบาร์เซโลนา) มาจาก เรอัล โซเซียดาด ซึ่งทำให้เขามักจะได้รับการต้อนรับอย่างร้อนแรงทุกครั้งที่กลับไปเยือน ซาน เซบาสเตียน จากนั้นในเดือนกรกฎาคม 2019 เรอัล โซเซียดาด ตอบโต้ด้วยการคว้าตัวผู้รักษาประตู อเล็กซ์ เรมีโร่ มาจาก แอธเลติก บิลเบา
และในช่วงซัมเมอร์ปี 2021 อาเล็กซ์ เปตซาร์โรมาน ที่เพิ่งย้ายไปร่วมทีม เดปอร์ติโบ ลา กอร์รุนญ่า ทีมในศึก ลาลีกา ไฮเปอร์โมชั่น หรือลีกรองของสเปน ก็เป็นผู้เล่นที่ก้าวขึ้นจากอคาเดมี่เยาวชนซูเบียต้า ก่อนย้ายไปยัง แอธเลติก บิลเบา โดยเป็นนักเตะคนสุดท้ายที่ย้ายข้ามเส้นแห่งศึก “บาสก์ดาร์บี้” จากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม แม้อารมณ์จะพุ่งสูงในวันดาร์บี้ แต่ทั้งนักเตะและแฟนบอลของทั้งสองทีมก็เข้าใจดีว่าพวกเขามีสิ่งที่เหมือนกันอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสนามเหย้าแห่งใหม่ที่ทันสมัยอย่าง ซาน มาเมส และ เรอาเล อารีน่า ซึ่งได้รับการปรับปรุงใหม่เมื่อไม่นานมานี้ แฟนบอลเจ้าบ้านและทีมเยือนต่างก็สามารถปะปนกันได้ทั้งในและรอบ ๆ สนาม โดยสีแดง-ขาวของ แอธเลติก บิลเบา ผสมผสานกับสีฟ้า-ขาวของ เรอัล โซเซียดาด (หรือ txuri-urdin ในภาษาบาสก์) ให้เห็นทั่วเมืองทั้งในและนอกสนาม ศึก “บาสก์ดาร์บี้” จึงสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่สวยงามมากมายที่มีอยู่ใน ลาลีกา
2 พฤษภาคม 2568 13:55:18 โดย
sw88.admin
4 ยอดผู้ชม