เพิ่งตื่นครึ่งหลัง! ‘หงส์’ ลุยยิง 3 นาที 2 เม็ดแซง 2-1 ยึดฝูง


ไบรท์ตันโชว์กดยับๆ ในครึ่งแรกแถมได้ประตูนำไปก่อนจากเฟอร์ดี้ คาดิโอกลู แต่ลิเวอร์พูล ดึงสติกลับมาลุยแหลกครึ่งหลังก่อนมาตีเสมอจากโคดี้ กัคโป แล้วเป็น โม ซาลาห์ รับบทฮีโร่กดสูตรติดยิงชนะ 2-1 กลับคืนจ่าฝูงได้แล้ว

ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-3-3

62.

ควีวิน เคลเลเฮอร์

4.

เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค

5.

อิบราอิมา โคนาเต้

46′

21.

คอสตาส ชิมิกาส

66.

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

8.

โดมินิก โซบอสซ์ไล

66′

10.

อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์

66′

38.

ไรอัน กราเฟนแบร์ค

9.

ดาร์วิน นูนเญซ

77′

11.

โมฮาเหม็ด ซาลาห์

90+1′

18.

โคดี้ กัคโป

ตัวสำรอง

56.

วิเตซสลาฟ ยารอส

2.

โจ โกเมซ

46′

26.

แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน

78.

จาเรลล์ ควอนซาห์

84.

คอเนอร์ แบรดลี่ย์

90+1′

3.

วาตารุ เอ็นโด

77′

17.

เคอร์ติส โจนส์

66′

80.

ไทเลอร์ มอร์ตัน

7.

หลุยส์ ดิอาซ

66′

ผู้จัดการทีม

อาร์เน่อ สล็อท

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

สนาม แอนฟิลด์
เสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2567
กรรมการ โทนี่ แฮร์ริงตัน

ลิเวอร์พูล
2
1
ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน

1-1 โคดี้ กัคโป 69’2-1 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 72′
0-1 เฟอร์ดี้ คาดิโอกลู 14′

ทั้งสองทีมกลับมาใช้นักเตะชุดใหญ่ลงสนามแต่โคดี้ กัคโป ที่ยิงสองลูกกลางสัปดาห์ได้ยืนปีกซ้ายต่อโดยมีดาร์วิน นูนเญซ และโม ซาลาห์ คอยทำเกมรุกในตำแหน่งสามประสาน ด้านไบรท์ตัน วางให้แดนนี่ เวลเบ็ค กับจอร์จินิโอ รุตแตร์ เป็นคู่กองหน้าโดยมีคาโอรุ มิโตมะ ป่วนริมเส้นซ้าย

9′

หนูนโซโล่เดี่ยวิงติดเซฟแฟร์บรู๊กเก้น
นูนเญซใช้ความแข็งแกร่งเอาชนะคาดิโอกลูกลางสนามก่อนลากเข้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วล็อคจนหาช่องเจอก่อนยิงด้วยขวาเน้นๆ แต่แฟร์บรู๊กเก้นยังไม่ยอมปัดทิ้งมือเดียว

14′

หงส์โดน!คาดิโอกลูสับเต็มเสียบเสาไกล 1-0
กลายเป็นไบรท์ตันได้เฮก่อน มิโตมะลากบอลจี้เข้ากรอบเขตโทษซ้ายก่อนเปิดย้อนหลังเวลเบ็คแต่กลายเป็นดีมาเข้าทางคาดิโอกลูวิ่งมาใส่ด้วยขวาบอลพุ่งหนีมือเคลเลเฮอร์เข้าไปทางเสาไกล 1-0!!!

22′

เวลเบ็คยิงตามน้ำได้เตะมุม
ฟรีคิกกลางสนามของไบรท์ตันเล่นสูตรเปิดเรียดมาให้เวลเบ็ควิ่งมายิงตามน้ำในกรอบเขตโทษขวาแต่มีชิมิกาสตามมาบล็อคบอลแฉลบออกหลัง

27′

ลูกหมีเซฟ!รุตแตร์หลุดยิงไม่ผ่าน
ไบรท์ตันเกือบได้ประตูที่สองเป็นการวางทะลุช่องของอยารีไปให้รุตแตร์ควบหนีฟาน ไดจ์คไปได้แต่จังหวะยิงไปติดเคลเลเฮอร์ที่ออกมาจากเส้นใช้เท้าขวางไว้ทัน

30′

โคนาเต้ได้โขกเตะมุม
เตะมุมทางขวาของลิเวอร์พูล ชิมิกาสเปิดมาให้โคนาเต้โขกไปติดตัวเฟลท์มันแล้วพยายามตามซ้ำก็โดนเตะทิ้งออกไปพ้นอันตรายก่อน

35′

คาดิโอกลูยิงเลยซัดข้ามคาน
ไบรท์ตันได้สวนกลับแล้วได้จบอีกมิโตมะหลุดเข้ากรอบเขตโทษซ้ายก่อนหยอดไปทางเสาไกลคาดิโอกลูพยายามยิงแบบไม่จับแต่ซัดข้ามคานไปเอง

41′

โก๋แดนฟรีคิกหลุดเสานิดเดียว
ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ ไม่ถึง 25 หลาของไบรท์ตันเป็นเวลเบ็คก้าวมาปั่นอ้อมกำแพงสวยแล้วแต่หลุดเสาไปนิดเดียวชนิดที่เคลเลเฮอร์ได้แต่ยืนมอง

HALF TIME

46′

โคนาเต้เดี้ยงโกเมซต้องลงแทน
โคนาเต้ที่เจ็บจังหวะสุดท้ายก่อนหมดครึ่งแรกเล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยนเอาโจ โกเมซ ลงมายืนเซ็นเตอร์แทน

47′

โกเมซโขกเหน่งแต่เบาเกิน
ชิมิกาสเปิดฟรีคิกเข้ามาในกรอบเขตโทษแล้วเป็นโกเมซโฉบมาคนเดียวได้โหม่งเน้นๆ แต่สะบัดเบาเกินเข้ามือแฟร์บรู๊กเก้น

53′

แม็คก้าโขกโดนเซฟอีก
กัคโปลากไปสุดเส้นหลังซ้ายก่อนเปิดมาที่เสาแรกแม็ค อัลลิสเตอร์ก้มมาโหม่งแต่ไปติดเซฟของแฟร์บรู๊กเก้นปัดไว้ทัน

54′

ว่าว…VvD โฉบยิงไม่โดน
เทรนท์วางเข้าไปในกรอบเขตโทษอย่างสวยแล้วเป็นฟาน ไดจ์คโฉบมาคนเดียวแต่กระโดดยิงไม่โดนเองไม่งั้นมีลุ้นเสมอ

56′

บังโมหลุดเดี่ยวยิงติดอีก
เคลเลเฮอร์เตะยาวไปให้โซบอสซ์ไลโหม่งเช็ดแล้วมีนูนเญซกระโดดตวัดไปให้ซาลาห์หลุดเอสตูปิยานไปแล้วแต่จังหวะยิงยังไม่ผ่านมือของแฟร์บรู๊กเก้นอีก

65′

กัคโปท่าไม้ตายยังไม่ตรงกรอง
ซาลาห์ลากตัดมากลางสนามก่อนไหลให้กัคโปเกี่ยวเข้าขวาข้างถนัดก่อนซัดเต็มแต่บอลหลุดเสาไกล

69′

หงส์ตีเจ๊า!กัคโปเปิดเข้าเฉย 1-1
หงส์แดง ตีเสมอได้สำเร็จเป็นจังหวะโชคช่วยที่กัคโปวางเท้าเปิดนอกกรอบเขตโทษด้านซ้ายบอลโค้งไม่โดนนูนเญซแล้วตกพื้นเข้าไปทางเสาไกล 1-1!!!

72′

บังโมโว้ย!หงส์คึกจัดแซง 2-1
ลิเวอร์พูลแซงนำแล้วเป็นการสวนกลับเร็ว โจนส์พาบอลขึ้นมาก่อนไหลให้ซาลาห์เกี่ยวติดล็อคหนีเอสตูปิยานก่อนปั่นด้วยซ้ายผ่านแฟร์บรู๊กเก้นเข้าไปอย่างงาม 2-1!!!

84′

โกเมซโฉบโขกยังเบาอีก
เตะมุมทางขวาของเจ้าถิ่น ชิมิกาสเปิดมาทางเสาแรกโกเมซโฉบมาโขกสวยแล้วแต่ก็เบาเกินไปเหมือนเดิมแฟร์บรู๊กเก้นรับเอาไว้ได้

หงส์แซง 2-1 ขึ้นจ่าฝูง
ไบรท์ตันไม่สามารถทวงประตูคืนได้ทำให้ลิเวอร์พูล แซงชนะเป่าปาก 2-1 เก็บเป็น 25 แต้มกลับเป็นจ่าฝูงเพราะแมน ซิตี้ ดันไปแพ้

ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน
Starting Formation: 4-2-2

1.

บาร์ท แฟร์บรู๊กเก้น

3.

อีกอร์ ฮูลิโอ

29.

แยน พอล ฟาน เฮ็คเก้

30.

เพอร์วิส เอสตูปิยาน

34.

โจเอล เฟลท์มัน

76′

22.

คาโอรุ มิโตมะ

87′

24.

เฟอร์ดี้ คาดิโอกลู

87′

26.

ยาซิน อยารี

76′

41.

แจ็ค ฮินเชลวู้ด

87′

14.

จอร์จินิโอ รุตแตร์

18.

แดนนี่ เวลเบ็ค

ตัวสำรอง

23.

เจสัน สตีล

2.

ทาริก แลมป์ตี้ย์

8.

บรายาน กรูด้า

76′

10.

ฮูลิโอ เอ็นซิโซ่

15.

ยาคุบ โมเดอร์

87′

20.

คาร์ลอส บาเลบา

27.

แมตส์ วีฟเฟอร์

76′

11.

ไซม่อน เอดินกร้า

87′

28.

อีแวน เฟอร์กูสัน

87′

ผู้จัดการทีม

ฟาเบียน เฮอร์เซเลอร์