‘ฮาลันด์’ ลูกเดียวอยู่! เรือเป่าปากเบียดไก่ 1-0 คืนที่ 4


เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ คัมแบ็คลงสนามได้แล้วเขาก็ทำประตูให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกนำตั้งแต่ต้นเกม กระนั้นครึ่งหลัง เรือใบสีฟ้า ลุ้นเหนื่อยเพราะ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ กดดันเป็นชุดทำหวาดเสียวหลายทีแต่ก็ยังเอาตัวรอดมาได้บุกไปเฉือนชนะ ไก่เดือยทอง 1-0 กลับมาอยู่ในอันดับ 4 อีกครั้ง

ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์
Starting Formation: 4-3-3

1.

กูเญียลโม่ วิคาริโอ

4.

เควิน ดันโซ

14.

อาร์ชี่ เกรย์

13.

เดสตินี่ อูโดกี้

67′

23.

เปโดร ปอร์โร่

30.

โรดริโก้ เบนทานคูร์

67′

15.

ลูคัส เบิร์กวัลล์

10.

เจมส์ แมดดิสัน

28.

วิลซอน โอโดแบร์

67′

22.

เบรนแน่น จอห์นสัน

11.

มาธีส เตล

66′

ตัวสำรอง

31.

อันโตนิน คินสกี้

24.

เจด สเปนซ์

67′

3.

เซร์คิโอ เรกีลอน

8.

อีฟส์ บิสซูม่า

29.

ปาเป้ มาตาร์ ซาร์

67′

21.

เดยัน คูลูเซฟสกี้

66′

44.

แดน สการ์เล็ตต์

7.

ซน ฮึง มิน

67′

16.

ทิโม แวร์เนอร์

ผู้จัดการทีม

แอนจ์ ปอสเตโคกลู

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

สนาม ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568
กรรมการ จาร์เร็ด จิลเล็ตต์

ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์
0
1
แมนเชสเตอร์ ซิตี้

0-1 ฮาลันด์ 12′

สเปอร์ส สลับแบ็คขวากลับมาใช้ ปอร์โร่ แต่แดนกลางเลือกส่ง แมดดิสัน ลงมาแทน คูลูเซฟสกี้ และ โอโดแบร์ ก็ได้ยืนปีกซ้ายแทน ซน

ทางด้าน แมนฯ ซิตี้ ให้ ดิอาส กลับมาคุมหลังแล้ว นูเนส ยืนแบ็คขวาแทน ลูวิส ส่วนแดนกลาง โควาซิช ลงแทน เดอ บรอยน์ แถมที่สำคัญ ฮาลันด์ กลับมาค้ำหน้า

7′

เรือลุ้น นูเนส หักถึง ฮาลันด์ ยิงโดนรับเข้าซอง
เริ่มมาช่วงแรก แมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้นหลังจากที่ นูเนส วิ่งสอดเข้าเขตโทษไปรับบอลแล้วหักมาตรงกลางบอลถึง ฮาลันด์ ถอยมายิงส่งบอลไปเข้าซอง วิคาริโอ

12′

เรือเฮแล้ว! โดกู จ่ายแฉลบเข้าทาง ฮาลันด์ ยิงนำ
แล้วพอ แมนฯ ซิตี้ หาโอกาสได้อีกทีก็มีประตูออกนำเลยหลังหนีจากการเพรสซิ่งกลางสนามได้แล้วถ่ายบอลจากขวาไปซ้ายถึง โดกู เลี้ยงจี้เข้าเขตโทษก่อนจ่ายมาตรงกลางติดแฉลบแต่กลายเป็นดีเข้าทาง ฮาลันด์ แปเสียบเสาแรกไป แมนฯ ซิตี้ ออกนำ 1-0

21′

เรือมากันใหม่ โดกู เลี้ยงตัดมายิงโดนเซฟ
แมนฯ ซิตี้ มีจังหวะให้ลุ้นอีกแล้วเมื่อ โดกู ทางซ้ายได้บอลมาเลี้ยงจี้เข้าเขตโทษโดนขวางเลยหลบออกมานอกกรอบจนหาช่องยิงได้แต่ก็ยังโดน วิคาริโอ เซฟไว้ก่อน

27′

ยังไม่สอง! โดกู เปิดถึง ซาวินโญ่ มาเดี่ยวๆยิงข้ามคาน
สเปอร์ส ยังหาโอกาสจบดีๆไม่ได้กลับกัน ซิตี้ สวนมาเกือบมีประตูเพิ่ม หลังจากฝาก โดกู ทางซ้ายอีกครั้งเลี้ยงหาเขตโทษแล้วหนนี้รีบเปิดข้ามไปเสาสองให้ ซาวินโญ่ วิ่งมาคนเดียวแต่ยิงส่งบอลข้ามคาน

30′

เรือลุ้นอีก! โดกู ไหลให้ ฮาลันด์ หน้าประตูยิงไม่ผ่าน
เกือบมีประตูให้ เรือใบ อีกแล้วหลัง มาร์มูช แย่งบอลได้สุดมุมธงทางขวา สเปอร์ส ถามหาฟาวล์ไม่ได้ ซาวินโญ่ เลยเก็บบอลมาก่อนจ่ายไปหน้าเขตโทษ กอนซาเลซ ไหลต่อ โควาซิช ส่งบอลถึง โดกู ทางซ้ายจบด้วยการปาดมาหน้าประตู ฮาลันด์ ยิงไปติดเซฟ

40′

ไก่ลำบากเลยหาโอกาสลุ้นดีๆไม่ได้
ผ่านมาจนถึงช่วงท้ายครึ่งแรกแม้ สเปอร์ส ได้ครองบอลไม่แพ้ แมนฯ ซิตี้ แต่ติดปัญหาที่พวกเขาหาทางเจาะเข้าไปสร้างโอกาสจบไม่ได้เลย ทำให้จนถึงตอนนี้เลยยังไม่มีจังหวะลุ้นดีๆสักที

45′

ไก่ได้ลุ้นแล้วฟรีคิกเปิดถึง ดันโซ โหม่งโดนปัดได้
สเปอร์ส เพิ่งมาได้ลุ้นกับเขาบ้างกับฟรีคิก่อนหมดครึ่งแรก ปอร์โร่ ทางขวาเปิดจากระยะไกลเข้ามาแล้ว ดันโซ ขึ้นโหม่งได้บอลลอยย้อยๆทำท่าจะเสียบคานแต่ เอแดร์ซอน ปัดไปก่อน

HALF TIME

51′

โดกู ยังป่วนอยู่ได้ยิงออกเสาสอง
กลับมาต่อครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ ได้โอกาสอีกหลังลูกครอสจากทางขวาหลุดออกมาหา โดกู ทางซ้ายมีตัวตามมาประกบยังโยกหนีเข้ามาในเขตโทษก่อนจะยิงออกเสาสองไปพอสมควร

55′

ไม่เสมอ! ปอร์โร่ ครอสมี โอโดแบร์ ชาร์จเสาไกลหลุดกรอบ
หวิดจะเป็นประตูตีเสมอให้ สเปอร์ส สุดๆเลยจากที่ริมเส้นขวา ปอร์โร่ รออยู่พอได้บอลมามีเวลาให้ตั้งป้อมครอสเข้าเขตโทษบอลหลุดไปถึงเสาไกล โอโดแบร์ เข้ามาชาร์จสุดขาแต่ส่งบอลหลุดออกหลังนิดเดียว

60′

ฟรีคิกไก่ได้จบ ดันโซ โหม่งไปเข้าซอง
ฟรีคิกของ สเปอร์ส ก็เป็นโอกาสจบอีกครั้งเมื่อ ปอร์โร่ รับหน้าที่เปิดจากทางขวาเข้าไปในเขตโทษ ดันโซ เป็นคนโหม่งได้อีกแต่หนนี้ถูก เอแดร์ซอน รับเข้าซอง

63′

ไก่มาอีก เบนทานคูร์ โหม่งเตะมุมโดนรับได้
ไก่เดือยทอง ทำเสียวได้อีกกับลูกเตะมุมทางซ้ายเปิดมาแถวเสาแรกแล้วมี เบนทานคูร์ วิ่งมาขึ้นโหม่งได้บอลกระดอนพื้นแต่ยังโดน เอแดร์ซอน รับได้ติดมือ

66′

ไก่มาน่ากลัวอีกแล้วแต่โดนดักไว้ก่อน
โอกาสของ สเปอร์ส มาแบบต่อเนื่องจริงๆเมื่อสวนกลับได้อีก อูโดกี้ ทางซ้ายพาบอลมาเองเข้าเขตโทษเลือกไหลให้ เตล ตรงกลางแต่โดนสกัดไว้ก่อนไม่งั้นมีลุ้น

69′

ไก่มาต่อเนื่อง ซาร์ ยิงไปโดนบล็อก
เจ้าบ้านมาเป็นชุดเลยและได้โอกาสจบอีกครั้งหลังทางซ้าย ซน จ่ายให้กับ สเปนซ์ สอดเข้าเขตโทษแล้วหักมาตรงกลาง ซาร์ รออยู่ได้ยิงแต่ก็โดนบล็อกไว้อีก

82′

ไก่เปลี่ยนคนสุดท้ายเอา แวร์เนอร์ มาลุ้น
เข้าท้ายเกม สเปอร์ส เลือกจะทิ้งไพ่ใบสุดท้ายด้วยการเปลี่ยน แมดดิสัน ออกแล้วส่ง แวร์เนอร์ ลงมาเติมแดนหน้าอีกคน

83′

เรือได้จบบ้าง ซาวินโญ่ ยิงไกลติดบล็อก
แมนฯ ซิตี้ ต้องตั้งรับเยอะแต่ก็มาหาจังหวะจบได้บ้างเพื่อกดดัน สเปอร์ส กลับไปหลังจากฟรีคิกริมเส้นขวาโดนสกัดออกมาหา ซาวินโญ่ ยิงไกลติดบล็อกเปลี่ยนทางออกหลัง

84′

ไก่สวนได้ลุ้น! จบที่ ซน ยิงไปไม่ผ่าน เอแดร์ซอน
จากนั้น สเปอร์ส ก็หาทางสวนกลับมาลุ้นอีกด้วยการรุมแยงกลางสนามแล้วจ่ายให้ ซน เบิ้ลออกขวา จอห์นสัน ควบพาบอลขึ้นไปก่อนเปิดเรียดให้ ซน ในเขตโทษยิงไปเสาแรกแต่โดน เอแดร์ซอน เซฟได้

90+4′

ฮาลันด์ ยิงเข้าไปแล้วแต่โดนจับแฮนด์บอล
ทดเจ็บ แมนฯ ซิตี้ ส่งบอลเข้าประตูไปได้แต่กรรมการไม่ให้ หลังจากลูกทุ่มทางซ้ายให้ ฮาลันด์ พักบอลไม่ได้แต่ยังแย่งกลับมาได้ก่อนจะชิ่งเข้าเขตโทษไปพยายามพักอกหนีไปได้แล้วยิงเข้าประตูแต่มีจับแฮนด์บอล

VAR ย้อนเช็คเพื่อดูว่าเป็นแฮนด์บอลหรือไม่และยึดตามคำตัดสินเดิมไม่ให้เป็นประตู

90+8′

หวิดเสมอ!! ไก่บุกหนสุดท้าย ซาร์ โหม่งข้ามคาน
แล้วก่อนจบเกม สเปอร์ส พลาดแบบสุดๆ หลังจากบุกหนสุดท้ายโยนขึ้นหน้าไปมีตัวโหม่งออกมาทางขวาให้ ปอร์โร่ เปิดเข้าเขตโทษ ซน โหม่งเสยมาถึง ซาร์ ด้านหลังวิ่งมาโล่งๆแต่โหม่งลอยข้ามคานนาเสียดาย

จบเกม แมนฯ ซิตี้ เฉือนชนะ สเปอร์ส ไปได้ 1-0 กลับมาคว้าชัยชนะหลังพ่ายไป 2 นัดติดและทำให้พวกเขากลับมาอยู่ในอันดับ 4 อีกครั้ง

ส่วนทางด้าน สเปอร์ส กลับมาแพ้หลังกวาดชัย 3 เกมรวดก่อนหน้านี้และยังอยู่ในอันดับ 13 ของตารางต่อไป

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-2-3-1

31.

เอแดร์ซอน

3.

รูเบน ดิอาส

45.

อับดูโคดีร์ คูซานอฟ

24.

ยอสโก้ กวาร์ดิโอล

27.

มาเธอุส นูเนส

14.

นิโก้ กอนซาเลซ

74′

8.

มาเตโอ โควาซิช

11.

เฌเรมี่ โดกู

90+4′

26.

ซาวินโญ่

7.

โอมาร์ มาร์มูช

74′

9.

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์

ตัวสำรอง

18.

สเตฟาน ออร์เตก้า

6.

นาธาน อาเก้

82.

ริโก้ ลูวิส

19.

อิลคาย กุนโดกาน

20.

แบร์นาร์โด้ ซิลวา

74′

17.

เควิน เดอ บรอยน์

10.

แจ๊ค กรีลิช

90+4′

47.

ฟิล โฟเดน

74′

87.

เจมส์ แม็คอที

ผู้จัดการทีม

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า