ลูกแรก 16 เดือน! ‘กรีลิชซัด’ เรือเคี้ยวนิ่มจิ้งจอก 2-0 ขึ้นที่ 4


เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเจองานเบาหลังได้ประตูแรกในลีกรอบ 16 เดือนของ แจ๊ค กรีลิช ยิให้ทีมออกนำตั้งแต่ไก่โห่ ก่อน โอมาร์ มาร์มุช บวกเพิ่มนาที 29 เข้าป้ายเอาชนะ จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ 2-0 พร้อมเก็บ 3 แต้มขยับแซงเชลซีขึ้นไปอยู่อันดับ 4 เป็นที่เรียบร้อย

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-2-3-1

31.

เอแดร์ซอน

24.

ยอสโก้ กวาร์ดิโอล

3.

รูเบน ดิอาส

27.

มาธีอัส นูเนส

75.

นิโก้ โอไรลลี่ย์

10.

แจ๊ค กรีลิช

19.

อิลคาย กุนโดกัน

14.

นิโก้ กอนซาเลซ

7.

โอมาร์ มาร์มุช

11.

เจเรมี่ โดกู

87′

26.

ซาวินโญ่

85′

ตัวสำรอง

8.

มาเตโอ โควาซิช

82.

ริโก้ ลูอิส

87.

เจมส์ แมคอาตี้

87′

47.

ฟิล โฟเด้น

20.

แบร์นาร์โด้ ซิลวา

17.

เควิน เดอ บรอยน์

18.

สเตฟาน ออร์เตก้า

52.

ออสการ์ บอบบ์

85′

22.

วิคตอร์ เฮส

ผู้จัดการทีม

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

สนาม อิติฮัด สเตเดี้ยม
วันพุธที่ 2 เมษายน 2568
กรรมการ ดาร์เรน อิงแลนด์

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
2
0
เลสเตอร์ ซิตี้

1-0 กรีลิช 2’2-0 มาร์มุช 29′

พรีเมียร์ลีกกลับมาเตะกันอีกครั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เล่นในบ้านมีภารกิจไล่ล่าอันดับ 4 ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก ขณะที่เลสเตอร์ ซิตี้ กำลังหนีตายจากการถูกลดชั้น

ทีมเรือใบกำลังเผชิญปัญหาในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก ส่งผลให้ มาธีอุส นูเนส และ นิโก้ โอไรลลี่ย์ ถูกส่งลงสนามเพื่อเติมเต็มแนวรับ มียอชโก้ กวาร์ดิโอล ขยับเข้ามาจับคู่กับ รูเบน ดิอาส

ซาวินโญ่, แจ๊คกรีลิช, เจเรมี่ โดคู และ โอมาร์ มาร์มูช มีชื่อนำเกมรุก ส่วน เควิน เดอ บรอยน์ และ ฟิล โฟเด้น มีชื่อเป็นแค่ตัวสำรอง

ฝั่งเลสเตอร์ ซิตี้ ไม่ปลี่ยนแปลงทีม รุด ฟาน นิสเตลรอย ยึดมั่นในคำพูดของเขา เขากล่าวว่าเขามีความสุขที่จะให้ผู้เล่นชุดเดิมได้โอกาสพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง

2′

ซิตี้ออกสตาร์ตเยี่ยม กรีลิชซัด 1-0
เกมเริ่มได้แค่นาทีเศษ แมนฯซิตี้นำไวจากความผิดพลาดของเอ็นดิดี้ไปเสียบอลกลางสนาม โดนซิตี้สวนกลับไปจบที่ซาวินโญ่จ่ายให้ กรีลิช ยิงไม่ต้องจับ 1-0 เป็นประตูแรกในรอบ 16 เดือนของ กรีลิช ในลีก

10′

เกมซิตี้ดีกว่าชัดเจน
เกมผ่าน 10 นาทีแรก แมนฯซิตี้ ดีกว่าชัดเจน เลสเตอร์แทบพาบอลขึ้นไปทำอันตรายถึงหน้าบ้านทีมเรือใบไม่ได้เลย

25′

เกมรุกเลสเตอร์ไม่ได้ลุ้นเลย
ผ่านครึ่งทางครึ่งแรก เกมรุกเลสเตอร์ยังทำอันตรายแน่รับแมนฯซิตี้ไม่ได้เลย

29′

เฮอร์มันเซ่นพลาด ถูกมาร์มุชลงโทษ 2-0
สกอร์บวกเพิ่มเป็น 2-0 จากความผิดพลาดของเลสเตอร์อีกครั้ง เมื่อเฮอร์มันเซ่น ออกมารับบอลกระฉอกลูกเข้าทาง มาร์มุช ยิงฟรีเข้าประตูไป

34′

มาร์มุชเกือบบวกได้อีกลูก
แมนฯซิตี้ น่าได้อีกลูกจากซาวินโญ่คัทแบ็กจากสุดเส้นหลังเหมือนประตูแรก แต่หนนี้ มาร์มุช ยิงไปติดบล็อคกองหลังพลาดได้ประตูไปนิดเดียว

37′

เฮอร์มันเซ่นซูเปอร์เซฟ
แมนฯซิตี้ บุกหนักมีลุ้นอีกครั้งจาก ซาวินโญ่ ตะบันเน้นๆ หน้าประตู ต้องชมเฮอร์มันเซ่น ที่ยกแขนออกมาปัดบอลทิ้งได้ทันแบบหวุดหวิด

HALF TIME

55′

ครึ่งหลัง ซิตี้เน้นเอาชัวร์มากขึ้น
กลับมาเล่นครึ่งหลัง แมนซิตี้ ผ่อนเกมลงมาเน้นเอาชัวร์มากขึ้น ปล่อยให้เลสเตอร์ถ่ายบอลไปมาแต่ไม่ปล่อยให้มาลุ้นถึงพื้นที่สุดท้าย

65′

ซิตี้เคาะบอลคุมเกมไปเรื่อยๆ
แมนฯซิตี้ เคาะบอลไปมาไม่เสี่ยง จนถึงตอนนี้ครึ่งหลังทั้งสองทีมแทบไม่มีจังหวะลุ้นประตูจะแจ้งเลย

75′

เลสเตอร์ยังไร้วี่แววกลับสู่เกม
เข้าช่วง 15 นาทีสุดท้าย เลสเตอร์ ซิตี้ พยายามเต็มที่ที่จะกลับสู่เกม แต่จนถึงตอนนี้พวกเขายังไร้วี่แววที่จะตีไข่แตกได้เลย

จนกระทั่งจบเกม ซิตี้ประคองสถานการณ์เข้าป้ายเอาชนเลสเตอร์ ซิตี้ ไปแบบไม่ยากเย็นนัก 2-0

เลสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 3-4-3

30.

แมดส์ เฮอร์มันเซ่น

4.

คอเนอร์ โคดี้

33.

ลุค โธมัส

3.

เวาท์ ฟาส

24.

บูบาคารี่ ซูมาเร่

76′

6.

วิลเฟรด เอ็นดิดี้

16.

วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น

60′

2.

เจมส์ จัสติน

9.

เจมี่ วาร์ดี้

46′

11.

บิลัล เอล คานนูส

60′

20.

แพตสัน ดาก้า

80′

ตัวสำรอง

21.

ริคาร์โด้ เปเรร่า

76′

41.

ยาคุบ สโคลาร์ซิค

10.

สเตฟี่ มาวิดิดี้

40.

ฟาคุนโด้ บัวนานอตเต้

60′

5.

เคเล็บ โอโคลี่

60′

14.

บ็อบบี้ เด คอร์โดบา-รีด

18.

จอร์แดน อายิว

80′

25.

โวโย คูลิบาลี่

22.

โอลิเวอร์ สคิปป์

46′

ผู้จัดการทีม

รุด ฟาน นิสเตลรอย