ฝั่งละแดง!! ‘อัลวาเรซ’ ฮีโร่ยิงน.90 ตราหมีแซงเบียดห้างยา 2-1


แอตเลติโก้ มาดริด ทำท่าจะแย่เพราะต้องมาเหลือ 10 คนตั้งแต่นาที 23 หลังจาก ปาโบล บาร์ริออส โดนไล่ออกและยังโดนนำก่อนจบครึ่งแรก กระนั้นครึ่งหลังพวกเขาพลิกกลับมาได้ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ยิงตีเสมอแถม ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาเหลือ 10 คนเช่นกันก่อนเป็น อัลวาเรซ คนเดิมยิงประตูชัยปิดท้าย ตราหมี แซงกลับมาชนะ ห้างยา 2-1 ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 3

แอตเลติโก้ มาดริด
Starting Formation: 4-4-2

13.

แยน โอบลัค

15.

เคลมองต์ ล็องเล่ต์

2.

โฮเซ่ กิเมเนซ

21.

ฆาบี้ กาลัน

45′

16.

นาอูเอล โมลิน่า

5.

โรดริโก้ เด ปอล

8.

ปาโบล บาร์ริออส

22.

จูเลียโน่ ซิเมโอเน่

87′

14.

มาร์กอส ญอเรนเต้

7.

อ็องตวน กรีซมันน์

87′

10.

ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ

90+2′

ตัวสำรอง

1.

ฮวน มุสโซ่

31.

อันโตนิโอ โกมิส

17.

โรดริโก้ ริเกวลเม่

3.

เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า

6.

โกเก้

10.

อังเคล คอร์เรอา

87′

12.

ซามูเอล ลิโน่

87′

4.

คอนเนอร์ กัลลาเกอร์

11.

โธมัส เลอมาร์

24.

โรบิน เลอ นอร์มังด์

23.

เรนิลโด้

45′

20.

อักเซล วิตเซล

ผู้จัดการทีม

ดิเอโก้ ซิเมโอเน่

ฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีก รอบลีกเฟส

สนาม ริยาดห์ แอร์ เมโทรโปลิตาโน่
วันที่ 21 มกราคม 2568
กรรมการ ดาวิเด้ มาสซ่า

แอตเลติโก้ มาดริด
2
1
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

1-1 อัลวาเรซ 52’2-1 อัลวาเรซ 90′
0-1 ฮินคาปิเอ 45+1′

แอตฯ มาดริด ได้ กิเมเนซ กลับมายืนคุมแนวรับแทน เลอ นอร์มังด์ ส่วนแดนกลาง ญอร์เรนเต้ ก็ได้ออกสตาร์ทแทน กัลลาเกอร์ นอกนั้นยังเหมือนเดิม

ด้าน เลเวอร์คูเซ่น ส่ง ฮินคาปิเอ กลับมาลงเล่นจึงปรับระบบเป็นหลังสามอีกครั้ง ส่วนแนวรุกดร็อป ชิค เพื่อส่ง ฟริมปง มาเพิ่มความจี๊ด

5′

ห้างยาทักทาย ปาลาซิออส ยิงไกลออกหลัง
มาถึง เลเวอร์คูเซ่น ได้ลองทักทายก่อนจากลูกครอสโดนสกัดมาหน้าเขตโทษ กริมัลโด้ จับบอลลั่นไปนิดเลยโดนดักไว้แต่ยังเด้งไปเข้าทาง ปาลาซิออส ยิงไกลหลุดออกหลัง

17′

ห้างยาลุยต่อ ฮินคาปิเอ ยิงออกหลังบ้าง
เลเวอร์คูเซ่น เป็นฝ่ายครองบอลมากกว่าแล้วก็มีโอกาสจบได้ลุ้นมากขึ้น ด้วยจังหวะ ชาก้า ตักข้ามแนวรับให้ กริมัลโด้ เติมเข้าเขตโทษทางซ้ายแล้วหักมาตรงกลาง ฮินคาปิเอ ได้ยิงส่งบอลพุ่งหลุดออกหลัง

19′

ยังไม่นำ! เตลล่า ยิงเข้าแล้วแต่โดนจับล้ำหน้า
หลังจากนั้น เลเวอร์คูเซ่น บุกต่อแล้วก็ส่งบอลเข้าประตูไปแต่ไม่ได้ กับการใช้บอลตักข้ามแนวรับอีกแล้วส่ง กริมัลโด้ คนเดิมหลุดเข้าเขตโทษทางซ้ายแล้วตบให้ เตลล่า ยิงเข้าประตูก่อนจะมีธงล้ำหน้าตามมา

20′

ห้างยามาต่อเนื่อง เวียร์ตซ์ ยิงไปติดเซฟ
ห้างยา มาต่อเนื่องเลยเกือบจะได้ประตูกันอีกหน หลังจากทางขวา ฟริมปง พยายามพาบอลหนีตัวประกบแล้วเปิดเข้าไปในเขตโทษ เวียร์ตซ์ พักอกได้แล้วยิงเลยแต่ก็โดนเซฟเอาไว้

23′

งานหยาบตราหมี! บาร์ริออส โดนแดงไล่ออก
งานหยาบสำหรับ แอตฯ มาดริด จริงๆเพราะเริ่มเกมมารูปเกมก็เป็นรองแถมมาเหลือนักเตะ 10 คนอีก ในจังหวะที่ บาร์ริออส เสียบแย่งบอลจาก มูคีเอเล่ ด้านหลังซึ่งโดนบอลก่อนแต่สตั๊ดเปิดปุ่มไปยันใส่น่อง

กรรมการไปดูภาพช้าแล้วตัดสินใจควักใบแดงไล่ บาร์ริออส ออกจากสนาม

31′

ชาก้า ยิงไกลแต่โดนรับเข้าซอง
หลังจากนั้นมา เลเวอร์คูเซ่น เลยยิ่งเป็นฝ่ายครองบอลมากขึ้นและได้โอกาสอีกหลังจาก กริมัลโด้ หักให้ เตลล่า ยิงติดบล็อกแล้วเด้งออกมา ชาก้า ยิงไกลเข้าไปใหม่แต่โดนรับเข้าซอง

38′

ตราหมีบุกสักหน่อย กาลัน ยิงหลุดไปไกล
นานที แอตฯ มาดริด ได้บุกขึ้นมาแล้วมีจังหวะจบหลังลูกครอสถูกสกัดไว้ แต่บอลยังโดนโหม่งมาเข้าทาง อัลวาเรซ เลยจ่ายย้อนออกมาหน้าเขตโทษ กาลัน ตัดสินใจยิงไกลพุ่งออกไปไกล

45+1′

ห้างยามาจนได้! มูคีเอเล่ ตักไปเสาไกล ฮินคาปิเอ โหม่งเข้า
แล้วก่อนหมดครึ่งแรก เลเวอร์คูเซ่น ก็เอาประตูนำสำเร็จ เริ่มจาก ฟริมปง กระชากหนีตัวประกบแล้วหักไปเสาแรก เวียร์ตซ์ ยิงไปติดบล็อกยังเด้งออกมาให้ มูคีเอเล่ ตักไปเสาไกลให้ ฮินคาปิเอ โหม่งส่งบอลย้อนเข้าเสาแรก เลเวอร์คูเซ่น นำ 1-0

HALF TIME

52′

ตราหมีขอคืน! สวนกลับ อัลวาเรซ ยิงตีเจ๊า
กลับมาครึ่งหลัง เลเวอร์คูเซ่น บุกอยู่เพลินๆโดน แอตฯ มาดริด ตีเสมอเข้าให้หลังจากที่ดักบอลในเขตโทษแล้วจ่ายออกมาให้ กรีซมันน์ เลือกโยนขึ้นหน้า อัลวาเรซ วิ่งไปแล้ว ทาห์ สกัดไม่ขาด อัลวาเรซ ยังตามไปแต่งบอลเข้าเขตโทษก่อนยิงเข้าประตูตีเสมอ 1-1

65′

ตราหมีคึกเลยเล่นเหมือนตัวเท่ากัน
หลังจากนั้นมากลายเป็น แอตฯ มาดริด ยิ่งคึกเลยแม้จะเหลือ 10 คนพยายามเพรสซิ่งไม่ให้ เลเวอร์คูเซ่น เล่นง่ายๆโดยที่มีเสียงเชียร์จากแฟนบอลเข้าช่วยแต่ตอนนี้ยังขาดโอกาสลุ้นกันอยู่

76′

ห้างยาเหลือ 10 คนบ้าง! ฮินคาปิเอ โดนเหลืองสอง
แล้วในช่วง 15 นาทีสุดท้ายของเกมเป็นตาของ ห้างยา ต้องมาเหลือ 10 คนบ้างในจังหวะที่ ซิเมโอเน่ ดวลกับ ฮินคาปิเอ พยายามแหวกผ่านไปแต่โดนตามเบียดล้มลง กรรมการเลือกควักเหลืองสองไล่ ฮินคาปิเอ ออกแบบนี้เกมเปิดกว้างเลย

81′

ท้ายเกมยิ่งเปิดกว้างผลัดกันลุย
เลเวอร์คูเซ่น จะถามหาจุดโทษในจังหวะ เวียร์ตซ์ ดักบอลกลับมาหน้าเขตโทษแล้วจะเลื้อยเข้าไปเองก่อนจะโดนเบียดจากด้านหลังล้มไป กรรมการไม่ได้เป่าก่อนที่ แอตฯ มาดริด จะเดินเกมสวนกลับ 3 ต่อ 3 สุดท้ายโดนสกัดทิ้งก่อนจะได้จบ

90′

ตราหมีแซงได้!! อัลวาเรซ เลี้ยงหลบนายด่านยิงนำ
แล้วนาทีสุดท้ายก่อนทดเจ็บ แอตฯ มาดริด ก็มาได้ประตูนำเข้าให้ หลังสาดขึ้นหน้าไปยังไม่มีใครเก็บได้สุดท้ายเด้งมาหา คอร์เรอา พยายามล็อกหลบแต่กลายเป็นดีบอลเข้าทาง อัลวาเรซ ในกรอบเลี้ยงหลบ โควาร์ มุมแคบก่อนจะยิงเข้าประตูไป แอตฯ มาดริด นำ 2-1

จบเกม แอตฯ มาดริด แซงคว้าชัยเหนือ เลเวอร์คูเซ่น 2-1 ทำให้พวกเขาขึ้นมาอยู่ในอันดับ 3 ของตารางทันทีมี 15 แต้มขยับเข้าใกล้ตีตั๋วรอบ 16 ทีม

ส่วน เลเวอร์คูเซ่น แพ้แบบนี้มี 13 คะแนนและแม้จะยังอยู่ในโซนเข้ารอบอัตโนมัติแต่ก็ยังไม่ปลอดภัยมีทีมแต้มเท่ากันอีกเพียบ

ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
Starting Formation: 3-4-2-1

17.

มาเตย์ โควาร์

4.

โยนาธาน ทาห์

3.

ปิเอโร่ ฮินคาปิเอ

12.

เอ็ดมอนด์ ทัปโซบา

20.

อเลฆันโดร กริมัลโด้

23.

นอร์ดี้ มูคีเอเล่

45′

34.

กรานิท ชาก้า

25.

เอ็กเซเกียล ปาลาซิออส

10.

ฟลอเรียน เวียร์ตซ์

89′

30.

เยเรมี่ ฟริมปง

82′

19.

นาธาน เตลล่า

68′

ตัวสำรอง

1.

ลูคัส ฮราเด็คกี้

36.

นิคลาส ลอมบ์

8.

โรเบิร์ต อันดริค

22.

วิคตอร์ โบนีเฟซ

40.

ฟรานซิส-อิเคชุควู ออนเยก้า

7.

โยนาส ฮอฟมันน์

68′

28.

เบน ฮาวิกฮอร์สต์

29.

อาร์เต็ม สเตปานอฟ

14.

ปาทริค ชิค

45′

13.

อาร์ตูร์

82′

24.

อเล็กซ์ การ์เซีย

89′

ผู้จัดการทีม

ชาบี้ อลอนโซ่