ปิดฉากโครส! ‘เมริโน่’ โขกชัย น.119 กระทิงทุบเบียร์ 2-1


ดานี่ โอลโม่ ตัวสำรองที่ลงมาแทนเปดรี้ตั้งแต่ต้นเกมโฉบยิงลูกจ่ายของลามีน ยามาล เป็นประตูขึ้นนำ แต่ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ มาต่อลมหายใจให้เจ้าภาพยิงตีเสมอ น.89 ทว่าเกมมาถึง น.119 กลายเป็น มิเกล เมริโน่ โขกตุงตาข่ายทำให้ สเปน ชนะ เยอรมนี 2-1 ผ่านไปเล่นในรอบตัดเชือก พร้อมสั่งลา โทนี่ โครส เกมสุดท้ายในอาชีพพ่อค้าแข้ง

สเปน
Starting Formation: 4-3-3

23.

อูไน ซิม่อน

8

14.

อายเมริก ลาปอร์ต

7

3.

โรบิน เลอ นอร์ม็องด์

46′

6.5

24.

มาร์ค คูคูเรญ่า

7

2.

ดานี่ คาร์บาฆาล

5.5

16.

โรดรี้

7

8.

ฟาเบียน รุยซ์

102′

7

20.

เปดรี้

8′

6

7.

อัลบาโร่ โมราต้า

80′

6.5

17.

นิโก้ วิลเลี่ยมส์

80′

6

19.

ลามีน ยามาล

63′

7.5

ตัวสำรอง

4.

นาโช่

46′

6.5

25.

เฟร์มิน โลเปซ

26.

อโยเซ่ เปเรซ

11.

เฟร์ราน ตอร์เรส

63′

6

21.

มิเกล โอยาร์ซาบาล

80′

6.5

13.

อเล็กซ์ เรมิโร่

12.

อเลฆานโดร กริมัลโด้

18.

มาร์ติน ซูบิเมนดี้

5.

ดาเนี่ยล บิเบียน

1.

ดาบิด รายา

22.

เฆซุส นาบาส

9.

โฆเซลู

102′

6

15.

อเล็กซ์ บาเอน่า

10.

ดานี่ โอลโม่

8′

9

6.

มิเกล เมริโน่

80′

7

ผู้จัดการทีม

หลุยส์ เด ลา ฟูเอนเต้

ยูโร 2024 รอบก่อนรองชนะเลิศ

สนาม สตุ๊ตการ์ท อารีน่า
ศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม 2567
กรรมการ แอนโธนี่ย์ เทย์เลอร์

EX. สเปน
2
1
เยอรมนี

1-0 ดานี่ โอลโม่ 52’2-1 มิเกล เมริโน่ 119′
1-1 ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ 89′

สเปน ขุมกำลังมาฟูลทีมเลย สามประสานแดนวรุก อัลบาโร่ โมราต้า, นิโก้ วิลเลี่ยมส์ และลามีน ยามาลเจ้าเก่า แดนกลางมีโรดรี้ คุมทัพโดยมีฟาเบียน รุยซ์ และเปดรี้ คอยเติมเกมรุก ด้านเยอรมนี มีปรับแดนกลาง เอ็มเร่ ชาน ได้ลงสนามขณะที่โจนาธาน ทาห์ พ้นโทษแบนกลับมายืนเซ็นเตอร์

1′

กระทิงเปิดดีเปดรี้ได้ยิง
เริ่มเกมมาสเปนทักทายก่อนจากการทำชิ่งเร็ว วิลเลี่ยมส์ให้บอลไปที่โมราต้าในกรอบเขตโทษก่อนคืนหลังมาให้เปดรี้ ยิงนอกกรอบแต่ไปตรงตัวของนอยเออร์

8′

เสียหาย!เปดรี้เจ็บโอลโม่ต้องลง
สเปนต้องเปลี่ยนตัวเร็วเลยเมื่อเปดรี้ มีอาการเจ็บเล่นต่อไม่ไหวเดินหน้าเซ็งออกจากสนามแล้วให้ดานี่ โอลโม่ ลงมาแทนในแดนกลาง

15′

ยามาลฟรีคิกยังไม่ดี
ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษของสเปนเยื้องไปทางขวา ยามาล พยายามยิงเรียดผ่านกำแพงไปทางเสาแรกแต่บอลก็หลุดออกหลังไป

21′

ไคได้โขกเบาเกินไป
คิมมิช เติมขึ้นมาทางขวาก่อนเปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ฮาแวร์ตซ์ เทคตัวโขกสูงได้สวยแล้วแต่บอลเบาไปซิม่อนล้มตัวรับไม่มีปัญหา

23′

ลาปอร์ตลองส่องนอยเออร์ไม่พลาด
ลาปอร์ต พาบอลขึ้นมาเองทางกราบซ้ายก่อนเห็นช่องลองส่องเต็มข้อบอลพุ่งเรียดแต่ก็ไม่ยากเกินไปสำหรับนอยเออร์

35′

ไคพักอกสวยยิงไม่ดีพอ
บอลยาวจากแดนหลังมาให้ฮาแวร์ตซ์ เบียดเลอ นอร์ม็องด์ มาพักอกก่อนรีบร้อนยิงด้วยขวาก็ไม่ดีทำให้ซิม่อนล้มตัวเซฟไว้ทัน

37′

วิลเลี่ยมส์หลุดซัดเสาแรกล้ำหน้าก่อน
โอลโม่แทงบอลให้วิลเลี่ยมส์ หลุดล้ำหน้าเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนยิงยัดเสาแรกติดเซฟนอยเออร์แต่สุดท้ายธงยกขึ้นมา

39′

โอลโม่ซัดไกลนอยเออร์เซฟอีก
เยอรมนีไปเสียบอลในแดนตัวเองก่อนโอลโม่ ได้บอลแล้วเห็นช่องซัดด้วยขวาระยะ 25 หลาบอลตกพื้นนอยเออร์ปัดออกมาโมราต้าพยายามตามมาเล่นแต่ก็ไม่มีอะไร

HALF TIME

47′

โมราต้าพลิกสวยดันยิงหลุดกรอบ
ยามาลให้บอลไปที่โมราต้าพลิกหนีทาห์ได้สวยแล้วก่อนยิงด้วยขวาแต่ดันใส่แรงเกินไปบอลหลุดออกหลังอย่างน่าเสียดาย

52′

ยามาลจ่าย!โอลโม่ยิงไม่จับกระทิงนำ 1-0
กระทิงดุ ขึ้นนำจนได้ โอลโม่ สอดเข้ามาในกรอบเขตโทษรับบอลจากยามาลที่แปมาให้ก่อนยิงด้วยขวาหนีมือนอยเออร์เข้าไปทางเสาซ้ายมือ 1-0!!!

60′

เวิร์ตซ์ยิงแฉลบออกหลัง
เยอรมนีพยายามโหมบุกทวงประตูคืน เวิร์ตซ์ ได้โอกาสลองยิงด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษบอลแฉลบออกหลังได้แค่เตะมุม

70′

อันดริชซัดไกลซิม่อนได้เซฟ
ฟูลล์ครูกได้บอลในกรอบเขตโทษแต่ยิงไม่ได้เลยไหลย้อนกลับมาให้อันดริชวางเท้ายิงด้วยขวานอกกรอบแต่ซิม่อนยังไวพุ่งไปปัดได้ก่อน

72′

ไคยิงติดบล็อคคาร์บาฆาล
อินทรีเหล็ก พับสนามอย่างหนัก ฮาแวร์ตซ์ได้ซัดด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแต่คาร์บาฆาล ก็ล้มตัวขวาไว้ทันอีก

77′

ชนเสา!!!ฟูลล์ครูกล้มตัวยิงอดตีเสมอ
เยอรมนีเกือบตีเสมอได้ เวิร์ตซ์หลุดมาทางขวาก่อนปาดเรียดไปที่เสาแรกฟูลล์ครูกล้มตัวยิงสวยงามบอลผ่านซิม่อนไปแล้วแต่ชนเสา

82′

มูเซียล่าซัดผิดเหลี่ยม
มูเซียลาพาบอลหนีคาร์บาฆาลเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วพยายามยิงยัดเสาแรกแต่บอลปลิ้นหลังเท้าออกไปเอง

83′

ซิม่อนเกือบไป! ไคชิพน้ำหนักเกิน
ซิม่อนเตะเปิดเกมไม่ดีเลย ฮาแวร์ตซ์ ดักได้กลางสนามก่อนควบมาชิพข้ามตัวซิม่อนที่ออกมาแล้วกลับไม่ทันแต่บอลข้ามคานแบบน่าผิดหวัง

89′

อินทรีเอาจนได้!เวิร์ตซ์วอลเล่ย์ชนเสาเจ๊า 1-1
แฟนบอลเจ้าถิ่นเฮสนั่นเมื่อมาได้ประตูตีเสมอแล้ว มิตเตลส์ตัดท์ ครอสบอลจากทางซ้ายไปทางเสาไกล คิมมิชโหม่งย้อนกลับมาให้เวิร์ตซ์ วอลเล่ย์ไม่จับบอลชนเสาไกลเข้าประตู 1-1!!!

90+4′

มุลเลอร์โฉบยิงไม่ได้ต้องต่อเวลา
คิมมิชตั้งป้อมครอสบอลจากริมเส้นซ้ายมาที่เสาแรก มุลเลอร์พยายามโฉบมายิงก็หลุดออกหลังไปเองก่อนไปสู้กันในช่วงต่อเวลาพิเศษ

104′

โอยาร์ซาบาลซัดได้ลุ้นเลย
โอยาร์ซาบาลลากบอลจากขวาเข้ากลางก่อนยิงด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษบอลพุ่งตกพื้นก่อนหลุดเสาไกล

105′

นิดเดียว!เวิร์ตซ์ไม่จับเฉี่ยวเสา
มุลเลอร์หลุดมาทางซ้ายก่อนลากรอจังหวะแล้วไหลมาให้เวิร์ตซ์แปด้วยซ้ายให้หนีมือซิม่อนแต่บอลโค้งหลุดเสาขวามือแบบเส้นยาแดง

106′

แฮนด์จารย์! เบียร์โวยขอจุดโทษ
เยอรมนีพยายามโวยเอาจุดโทษ มูเซียล่าซัดไปติดแขนของคูคูเรญ่า แต่กรรมการไม่ได้ว่าอะไร VAR ก็ปล่อยเบลอเช่นเดียวกัน

117′

ฟูลล์ครูกโฉบโขกไม่ผ่านซิม่อน
คิมมิชเปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษฟูลล์ครูกเบียดมาโขกตัดหน้านาโช่ได้สวยแล้วแต่ซิม่อนยังไม่ยอมปัดออกไปก่อน

119′

โอลโม่หยอด! เมริโน่โขกชัย 2-1
ก่อนจบเกม โอลโม่ ได้บอลทางซ้ายก่อนหยอดเข้ากรอบเขตโทษแล้วมาเข้าหัวของเมริโน่โขกตุงตาข่าย 2-1 แล้วเป็นประตูชัยของพวกเขาด้วย

กระทิงเฉือนเบียร์อย่างมัน 2-1
ก่อนจบเกม ฟูลล์ครูก มาได้โขกหลุดเสาไปอีก แล้วคาร์บาฆาล มาได้เหลืองสองโดนไล่ออก ทำให้สุดท้าย สเปน ชนะ 2-1 ผ่านไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ รอเจอผู้ชนะระหว่างโปรตุเกส กับ ฝรั่งเศส

เยอรมนี
Starting Formation: 4-2-3-1

1.

มานูเอล นอยเออร์

6.5

4.

โจนาธาน ทาห์

80′

6

2.

อันโตนิโอ รุดิเกอร์

6.5

3.

เดวิด รวม

57′

6

6.

โจชัว คิมมิช

8

21.

อิลกาย กุนโดกัน

57′

6

8.

โทนี่ โครส

6.5

25.

เอ็มเร่ ชาน

46′

6.5

7.

ไค ฮาแวร์ตซ์

91′

6.5

10.

จามาล มูเซียล่า

6.5

19.

เลรอย ซาเน่

46′

6

ตัวสำรอง

12.

โอลิเวอร์ เบามันน์

17.

ฟลอเรียน เวิร์ตซ์

46′

7.5

15.

นิโก้ ชลอตเตอร์เบ็ค

11.

คริส ฟูห์ริช

16.

วัลเดอร์มาร์ อันตอน

91′

6

13.

โธมัส มุลเลอร์

80′

6

5.

ปาสกาล กรอส

20.

เบนจามิน เฮนริชส์

24.

โรบิน คอช

23.

โรเบิร์ต อันดริช

46′

6

9.

นิคลาส ฟุลล์ครูก

57′

6.5

14.

มาซิมิเลี่ยน ไบเออร์

26.

เดนิซ อันดาฟ

18.

มาซิมิเลี่ยน มิตเตลส์ตัดท์

57′

6

22.

มาร์ค-อันเดร แทร์ สเตเก้น

ผู้จัดการทีม

ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์