ต้านไม่อยู่! ปืน 10 คนโดน 90+8 เรือเป่าปากแบ่งแต้ม 2-2


บิ๊กแมตช์ สองทีมนำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้-อาร์เซนอล มีครบทุกรสชาติ สถานการณ์พลิกไปมาก ทั้งประตูขึ้นนำลูกที่ 100 ของ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ (น.9), ประตูเดบิวต์สุดสวยตีเสมอของ ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ (น.22), จุดเปลี่ยนอาการบาดเจ็บของ โรดรี้, สูตรเตะมุมมหาประลัยที่ กาเบรียล มากาเญส โขกปลิดชีพ (น.45+1), ใบแดงท้ายครึ่งแรกของ เลอันโดร ทรอสซาร์ ที่ทำให้ทัพปืนใหญ่เหลือ 10 คน ต้องเล่นรับสุดตัวตลอดครึ่งหลัง แต่สุดท้ายต้านไม่อยู่มาโดนประตูตีเสมอ 2-2 ของจอห์น สโตนส์ ช่วงทดเจ็บนาที 90+8 แบ่งแต้มกันไปสุดมัน

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-2-3-1

31.

เอแดร์ซอน

25.

มานูเอล อคานยี่

3.

รูเบน ดิอาส

24.

ยอสโก้ กวาร์ดิโอล

2.

ไคล์ วอล์คเกอร์

78′

20.

แบร์นาร์โด้ ซิลวา

19.

อิลคาย กุนโดกัน

16.

โรดรี้

21′

9.

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์

11.

เจเรมี่ โดกู

69′

26.

ซาวินโญ่

78′

ตัวสำรอง

8.

มาเตโอ โควาซิช

21′

27.

มาธีอัส นูเนส

47.

ฟิล โฟเด้น

69′

5.

จอห์น สโตนส์

78′

33.

สกอตต์ คาร์สัน

82.

ริโก้ ลูอิส

10.

แจ๊ค กรีลิช

78′

18.

สเตฟาน ออร์เตก้า

87.

เจมส์ แมคอาตี้

ผู้จัดการทีม

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม
วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2567
กรรมการ ไมเคิล โอลิเวอร์

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
2
2
อาร์เซนอล

1-0 ฮาลันด์ 9’2-2 สโตนส์ 90+8′
1-1 คาลาฟิออรี่ 22’1-2 กาเบรียล 45+1′

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเจอศึกหนักอาร์เซนอล ทีมในกลุ่มลุ้นแชมป์เหมือนกัน นัดนี้เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หมดสิทธิ์ใช้งาน เควิน เดอ บรอยน์ ที่บาดเจ็บ อิลคาย กุนโดกัน ทำหน้าที่แทน

ด้านอาร์เซนอลมาเยือนก็ไม่มี มาร์ติน โอเดการ์ด แต่เซอร์ไพรส์จัดตัวของ มิเกล อาร์เตต้า คือ เขาดร็อป เบน ไวท์ เป็นตัวสำรองแล้วโยก ยูร์เรียน ทิมเบอร์ มายืนฝั่งขวา เปิดทางให้ ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงนัดแรกในตำแหน่งแบ็กซ้าย

8′

เรือส่งสัญญาณเตือนจากกุนโดกัน
แมนฯซิตี้ ส่งสัญญาณเตือนอาร์เซนอลจากโอกาสของ กุนโดกัน โชคยังดีของทีมเยือนที่มิดฟิลด์เยอรมันจบสกอร์ไม่คม

9′

แปปเดียว ฮาลันด์คนดีคนเดิมซัด 1-0
เอาจนได้ แมนฯซิตี้ ขยับขึ้นนำ 1-0 จากความโหดของ ฮาลันด์ คนดีคนเดิม วิ่งทำทางให้ ซาวินโญ่ แทงทะลุช่องให้ หอกจอมมารบู หลุดเข้าไปซัดคมกริบผ่านมือราย่าเข้าประตูไปเลย

ลูกนี้เป็นประตูที่ 100 จากการเล่น 105 นัดให้แมนฯซิตี้ ทาบสถิติคริสติอาโน่ โรนัลโด้ ที่ยิงเท่ากันสมัยเล่นให้เรอัล มาดริด

15′

กุนโดกันปั่นฟรีคิกชนเสาอีกดอก
อาร์เซนอล เกือบโดนอีกลูกจากฟรีคิกปั่นโค้งอ้อมกำแพงชนเสาแรกของกุนโดกัน

16′

งานหยาบ โรดรี้ เจ็บหนักต้องเปลี่ยนออก
โชคร้ายของแมนซิตี้ โรดรี้ วิ่งตีคู่กับปาร์เตย์จังหวะเล่นเตะมุม โชคร้ายลื่นเสียจังหวะล้มลง เจ้าตัวกุมที่หัวเข่า นอนดิ้นด้วยความเจ็บปวด ต้องหยุดเกมให้ทีมแพทย์เข้ามาดู

แม้จะลุกขึ้นมาเดินกระเผลกออกจากสนามเองได้ แต่เขาเล่นต่อไม่ไหวต้องลุ้น โควาซิช ลงเล่นแทนนาทีที่ 21

22′

คาาฟิออรี่เดบิวต์หวานยิงไกลสุดสวยตีเสมอ 1-1
เผลอแปปเดียว อาร์เซนอล ตีเสมอได้เลยจากลูกยิงไกลสุดสวยของ คาลาฟิออรี่ กองหลังทีมชาติอิตาลีที่ลงเป็นตัวจริงนัดแรก ทำเอาเป๊ปที่อยู่ข้างสนาม ไม่พอใจอย่างมาก

30′

เรือกลับมาครองบอลขลึงเกมบุกอีกครั้ง
หลังจากสมาธิหลุดจนโดนตีเสมอ 1-1 ผู้เล่นเรือใบกลับมามุ่งมั่นกับเกมได้อีกครั้ง พวกเขาครองบอลต่อบอล เดินหน้าแก้ประตูที่เสียไปคืนอยู่ข้างเดียว

38′

ปืนอันตรายสุดๆจากสูตรเตะมุม
อาร์เซนอล มีทีเด็ดที่เตะมุม และก็เกือบจะทำได้จริงจากลูกสูตรสกรีนให้ กาเบรียล และฮาแวร์ตซ์ ขึ้นโขกที่เสาสอง

45+1′

เตะมุมโหดจริง กาเบรียลโขกเข้าจนได้ ปืนแซง 2-1
สุดจริงๆ สูตรเตะมุมอาร์เซนอล เล่นเหมือนเดิม แต่คราวนี้ กาเบรียล เอาชนะวอล์คเกอร์ได้โขกที่เสาสองไม่เหลือซากทีมเยือนแซงนำแล้ว 2-1

45+8′

ปืนเหลือ 10 คน ทรอสซาร์โดนไล่ออก
ช่วงทดเจ็บ อาร์เซนอล เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน หลัง ทรอสซาร์ เตะบอลทิ้งได้เหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม

HALF TIME

46′

ปืนถอดซาก้าส่งไวท์ยื้อเกมรับเต็มตัว
ตัวน้อยกว่า อาร์เตต้าแก้เกมส่ง เบน ไวท์ ลงมาช่วยเกมรับแทน ซาก้า หวังยื้อสกอร์ที่นำอยู่ให้ได้ตลอดทั้งครึ่ง

55′

ชัดเจน ปืนรับลึก-เรือขลึงเกมบุก
ชัดเจน อาร์เซนอลที่เหลือ 10 คน ถอยต่ำลงไปตั้งรับลึก ท้าทายแมนฯซิตี้ให้ดาหน้าขึ้นมาต่อบอลไล่ล่าประตูตีเสมอ

59′

เรือน่าได้สุดๆจากลูกโหม่งฮาลันด์
แมนฯซิตี่น่าตี้เสมอได้อย่างที่สุดจากลูกโหม่งของ ฮาลันด์ที่เสาไกล แต่ราย่าไวพอทิ้งตัวปัดบอลทิ้ง ก่อน แบร์นาร์โด้ตามซ้ำข้ามคาน

62′

ราย่าเซฟอีก ลูกยิงกวาร์ดิโอล
ราย่า เหนียวจริง ซูเปอร์เซฟลูกยิงหน้าบ้านของกวาร์ดิโอลได้ชะงัก

69′

เรือส่งโฟเด้นสร้างความแตกต่าง
แมนฯซิตี้เหลือเวลาอีก 20 นาที ต้องปรับเกมส่ง โฟเด้น ลงมาสร้างความแตกต่างแทนโดกู

78′

เรือเปลี่ยนกรีลิช,สโตนส์ลงมาอีก
แมนฯซิตี้ส่งอีก 2 ให้สโตนส์ กับกรีลิช ลงเล่นแทนซาวินโญ่กับวอล์คเกอร์

85′

เรือครองบอลฝ่ายเดียว แต่เจาะไม่เข้า
เข้าช่วงท้ายเกม แมนฯซิตี้ ขลึงเกมจริงแต่เจาะไม่เข้า ไม่ได้ลุ้นประตูแบบจะแจ้งเลย

87′

ราย่าก็สุดเหนียว ตามเซฟลูกยิงกวาร์ดิโอลได้อีก
โอกาสทองของแมนฯซิตี้จากลูกวอลเล่ย์ของกวาร์ดิโอล แต่ราย่า ก็ท็อปฟอร์มจ่อเนื่อง พุ่งตามไปเซฟไว้ได้อีก

90+8′

เรือรอดเหลือเชื่อ สโตนส์ซัดตีเสมอ 2-2
เกมจะจบอยู่แล้ว แมนฯซิตี้มาไล่ตามตีเสมอสำเร็จ จากโควาซิชยิงติดบล็อค กระดอนไปเข้าทางปืน สโตนส์ ซ้ำจ่อๆ ไม่เหลือซาก 2-2

จบเกม อาร์เซนอล 10 คนต้านไม่อยู่ เจ้าถิ่นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่ตามตีเสมอนาทีบาป 2-2

อาร์เซนอล
Starting Formation: 4-4-2

22.

ดาบิด ราย่า

6.

กาเบรียล มากาเญส

2.

วิลเลียม ซาลิบา

33.

ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่

74′

12.

ยูร์เรียน ทิมเบอร์

41.

เดแคลน ไรซ์

5.

โธมัส ปาร์เตย์

11.

กาเบรียล มาติเนลลี่

7.

บูคาโย่ ซาก้า

46′

19.

เลอันโดร ทรอสซาร์

29.

ไค ฮาแวร์ตซ์

ตัวสำรอง

9.

กาเบรียล เชซุส

30.

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

4.

เบน ไวท์

46′

47.

มัลดินี่ คาคูร์ร่

32.

เนโต้

53.

เอธาน เอ็นวาเนรี่

49.

ไมลส์ ลูอิส-สเคลลี่

20.

จอร์จินโญ่

15.

ยาคุบ คิวิออร์

74′

ผู้จัดการทีม

มิเกล อาร์เตต้า