แพ้ 4 นัดรวด!! ‘เปโดร’ สำรองยิง+จ่าย เรือพ่ายไบรท์ตัน 2-1


เป๋ยาวเลยสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อุตส่าห์ออกนำก่อนจาก เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ แต่พอเข้าครึ่งหลัง ไบรท์ตัน ยิ่งเล่นยิ่งดีกลับมากดดันมากขึ้นก่อนที่ตัวสำรองแบบ เจา เปโดร จะยิง 1 จ่าย 1 ทำให้ เรือใบสีฟ้า ต้องโดนแซงท้ายเกมพ่าย 2-1 แถมยังเป็นการแพ้ 4 เกมติดหนแรกภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

ไบรท์ตัน
Starting Formation: 4-4-2

1.

บาร์ท แฟร์บรุคเค่น

3.

อิกอร์ ฮูลิโอ

29.

ยาน พอล ฟาน เฮคเก้

30.

แพร์วิส เอสตูปิญาน

34.

โยเอล เฟลท์มัน

26.

ยาซิน อารายี่

45′

41.

แจ๊ค ฮินเชลวูด

57′

22.

คาโอรุ มิโทมะ

11.

ซิม่อน อาดินกรา

66′

14.

จอร์จินิโอ รุตแตร์

66′

18.

แดนนี่ เวลเบ็ค

ตัวสำรอง

23.

เจสัน สตีล

20.

คาร์ลอส บาเลบา

45′

27.

มัตส์ วีฟเฟอร์

33.

แมตต์ โอไรลี่ย์

57′

15.

ยาคุบ โมเดอร์

10.

ฮูลิโอ เอนซิโซ

8.

บรายาน กรูด้า

66′

9.

เจา เปโดร

66′

28.

อีแวน เฟอร์กูสัน

ผู้จัดการทีม

ฟาเบียน เฮอร์เซเลอร์

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

สนาม เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2567
กรรมการ ซามูเอล บาร์ร็อตต์

ไบรท์ตัน
2
1
แมนเชสเตอร์ ซิตี้

1-1 เปโดร 78’2-1 โอไรลี่ย์ 83′
0-1 ฮาลันด์ 23′

ไบรท์ตัน ไม่มี คาดิโอกลู ทำให้ อาดินกรา ต้องลงสนามมายืนประจำการริมเส้นขวา ส่วนแดนกลาง อารายี่ เล่นไหวก็ลงต่อ

ทางด้าน ซิตี้ ยังต้องให้ พิวซี่ หลังดาวรุ่งลงตัวจริงเพราะสำรองแบบ อคานยี และ อาเก้ ฟิตไม่พอ เท่ากับว่าพวกเขาต้องยึดนักเตะชุดเดียวกับที่เพิ่งพ่าย สปอร์ติ้ง กลางสัปดาห์

14′

ช่วงแรกไบรท์ตันพอได้ทักทายแต่มีธงล้่ำหน้า
ช่วงแรก ซิตี้ เป็นฝ่ายครองบอลหาช่องแต่ ไบรท์ตัน หาจังหวะเกือบได้ลุ้นก่อนเมื่อใช้บอลจ่ายตามช่องให้ รุตแตร์ โฉบเข้าเขตโทษแต่โดนแหย่ไว้เด้งมาหา มิโทมะ ยิงโดนเฉือนๆหลุดไปเยอะก่อนจะมีธงล้ำหน้าตามมา

15′

เรือได้ลุ้น! ซาวินโญ่ สอดไปยิงมุมแคบติดเซฟ
โอกาสหนแรกของ แมนฯ ซิตี้ ก็มาแล้วในจังหวะที่ โควาซิช พาบอลขึ้นมาก่อนไหลเข้าเขตโทษให้ ซาวินโญ่ ทางขวาโฉบมายิงมุมแคบติดเซฟออกเสาสอง

17′

โฟเดน เปิดฟรีคิกให้ ฮาลันด์ ยิงออกหลัง
แมนฯ ซิตี้ ได้ฟรีคิกทางซ้าย โฟเดน เปิดเข้าไปลุ้นในเขตโทษแล้วบอลหลุดมาถึง ฮาลันด์ ตัวไกลแต่กระดอนมาเลยยิงได้ไม่ถนัดบอลไม่ตรงกรอบ

23′

เรือขอก่อน! โควาซิช แทงส่ง ฮาลันด์ ยิงติดเซฟยังซ้ำเข้า
แต่หลังจากนั้นอีกไม่นาน เรือใบ ก็มีประตูนำเรียบร้อยหลังจาก โควาซิช ดักบอลได้กลางสนามหลบมาหนึ่งก่อนแทงตามช่องให้ ฮาลันด์ วิ่งสอดคู่กองหลังลุยต่อเข้าเขตโทษยิงทีแรกติดเซฟแต่ยังซ้ำเข้าไปได้ ซิตี้ นำ 1-0

26′

เรือลุยต่อ! ฮาลันด์ ยิงมุมแคบติดเซฟอีก
เกือบจะมีประตูให้กับ แมนฯ ซิตี้ ต่อเลยเมื่อต่อบอลกันจากกลางสนาม กุนโดกาน ฝากที่ โฟเดน แล้วจ่ายเข้าเขตโทษให้ ฮาลันด์ หนีไปมุมแคบก่อนซัดติด แฟร์บรุคเค่น

27′

เตะมุมถึงหัว ฮาลันด์ ก็ยังโหม่งออกหลัง
แมนฯ ซิตี้ ลุ้นต่อเนื่องกับเตะมุมทางขวาเปิดเข้ามาตรงหน้าประตู แฟร์บรุคเค่น ออกมาชกแต่เจอ ฮาลันด์ เบียดตัวประกบโหม่งได้ก่อนกระนั้นบอลยังออกหลัง

35′

ไบรท์ตันขอลุ้นบ้าง เวลเบ็ค ยิงติดบล็อก
ไบรท์ตัน หาทางมาลุ้นเอาประตูตีเสมอซึ่งเกือบได้กับการโยนออกซ้ายบอลโดน วอล์คเกอร์ ทำให้ มิโทมะ ตามเก็บได้ก่อนจ่ายให้ เวลเบ็ค วิ่งมาแตะเข้าไปในเขตโทษแล้วยิงติดบล็อก

39′

เวลเบ็ค ได้ยิงฟรีคิกแต่ปั่นหลุดออกเสา
กลับมาเป็น ไบรท์ตัน ได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษระยะกำลังได้ลุ้นมุมเยื้องมาทางขวาหน่อย เวลเบ็ค รับหน้าที่จัดการปั่นใส่เสาแรกแต่ยังหลุดออกไป

HALF TIME

52′

หวิดเจ๊า! ฮินเชลวูด โหม่งตรงตัวโดนเซฟ
ตั้งแต่เริ่มครึ่งหลังมา ไบรท์ตัน กดดันแบบต่อเนื่องและหวิดจะตีเสมอเมื่อ เอสตูปิญาน เติมมารับบอลทางซ้ายแล้วมีเวลาให้เปิดจากสุดเส้นหลังมาตรงหน้าประตู ฮินเชลวูด วิ่งมาโหม่งแต่ตรงตัวเลยโดนปัดไปก่อน

56′

เรือก็เกือบเฮ ฮาลันด์ จ่ายให้ ซาวินโญ่ โดนสกัดก่อน
ซิตี้ ก็มีโอกาสให้ลุ้นประตูเพิ่มเหมือนกันกับการดักบอลไว้ในแดนของ ไบรท์ตัน แล้วแทงให้ ฮาลันด์ ทะลุเข้าเขตโทษพยายามปาดไปอีกเสาให้ ซาวินโญ่ วิ่งมายิงจ่อๆแต่โดนสกัดไว้ทัน

63′

เรือมาใหม่ ซาวินโญ่ ยิงออกเสาสอง
แมนฯ ซิตี้ ลองหาโอกาสอีกรอบหลังจาก โฟเดน ฝากบอลไปที่ ซาวินโญ่ ทางขวาเข้าเขตโทษขอลองยิงด้วยซ้ายแต่ยังโค้งไม่พอออกเสาสอง

65′

ไบรท์ตันบุกมาใหม่ รุตแตร์ โหม่งข้ามคาน
ผลัดกลับมาเป็น ไบรท์ตัน ได้ลุ้นหลังจาก มิโทมะ ตามเก็บบอลริมเส้นซ้ายได้แล้วรอให้ เอสตูปิญาน เติมมารับช่วงต่อเปิดเข้าไปในกรอบจบด้วย รุตแตร์ โหม่งข้ามคาน

69′

ไบรท์ตันลุ้นอีกที! บอลยาวถึง เปโดร พาไปยิงออกหลัง
เป็นอีกครั้งที่เจ้าบ้านเกือบจะตีเสมอได้หลังจากใช้บอลโยนขึ้นไปแล้ว เปโดร หลุดมาไม่ล้ำเกี่ยวบอลเข้าเขตโทษไปแต่จังหวะจบยิงโดนเฉือนไปเลยออกเสาสองพอสมควร

78′

มาจนได้! บอลมั่วๆหน้าประตู เปโดร ยิงเข้าตีเสมอ
ไบรท์ตัน กดดันขึ้นเรื่อยๆและก็เอาประตูตีเสมอเรียบร้อย ด้วยบอลยาวจากแนวรับให้ มิโทมะ ขึ้นไปทางซ้ายเปิดไซด์ก้อยติดบล็อกเด้งกลับมาหาเลยจ่ายเข้าไปตรงกลางเขตโทษ เวลเบ็ค ไม่ได้ยิงแต่บอลไม่ไปไหนสุดท้าย เปโดร เก็บได้แล้วยิงเข้าไปตีเสมอ 1-1

83′

แซงเลย!! เปโดร แทงให้ โอไรลี่ย์ ทะลุไปยิงนำ
แล้วท้ายเกมก็กลายเป็น ไบรท์ตัน แซงนำสำเร็จ กับการเข้าทำที่ดีต่อบอลขึ้นตรงกลาง　เวลเบ็ค เบิ้ลให้ เปโดร ก่อนแทงต่อ โอไรลี่ย์ สอดเข้าไปจับบอลได้แล้วยิงผ่าน เอแดร์ซอน ซุกตาข่าย ไบรท์ตัน นำ 2-1

90+2′

เรือเวลาไม่มีแล้ว โฟเดน ยิงออกเสา
เวลายังพอเหลือให้กับ แมนฯ ซิตี้ และก็เกือบจะได้ประตูตีเสมอเมื่อฝากให้ โฟเดน ในเขตโทษทางซ้ายมีตัวประกบมาขวางยังขยับหาช่องยิงส่งบอลกลิ้งออกเสาไกล

จบเกม แมนฯ ซิตี้ พบกับความพ่ายแพ้ต่อ ไบรท์ตัน 2-1 ยังเป็นรองจ่าฝูงแต่อาจจะโดนทำแต้มทิ้งห่างออกไป แต่ที่แย่กว่าคือแพ้ 4 นัดติดแล้วแถมหนสุดท้ายที่แพ้ 4 เกมรวดแบบนี้ต้องย้อนไปสมัย สจวร์ต เพียร์ซ ยังคุม

ขณะที่ชัยชนะของ ไบรท์ตัน ทำให้พวกเขาขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 4 มี 19 คะแนน

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-1-4-1

31.

เอแดร์ซอน

66.

จาห์เม ซิมป์สัน-พิวซี่

2.

ไคล์ วอล์คเกอร์

24.

ยอสโก้ กวาร์ดิโอล

82.

ริโก้ ลูวิส

8.

มาเตโอ โควาซิช

27.

มาเธอุส นูเนส

19.

อิลคาย กุนโดกาน

47.

ฟิล โฟเดน

26.

ซาวินโญ่

74′

9.

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์

ตัวสำรอง

18.

สเตฟาน ออร์เตก้า

25.

มานูเอล อคานยี

6.

นาธาน อาเก้

97.

จอช วิลสัน-เอสแบรนด์

17.

เควิน เดอ บรอยน์

56.

เจค็อบ ไรท์

20.

แบร์นาร์โด้ ซิลวา

74′

75.

นิโก้ โอเรลลี่ย์

87.

เจมส์ แม็คอที

ผู้จัดการทีม

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า