ถอนเยอะก็มีข้อดี! นั่งดู ‘สิงโต’ ส่งตัวใหม่ไล่ทุบไอร์แลนด์ 5-0


ทัพ สิงโตคำราม อังกฤษ แม้จะถอนตัวจากทีมชุดนี้ไปมากมาย แต่ทำให้เราได้เห็นผู้เล่นใหม่ๆ อย่าง วาเลนติโน่ ลิฟราเมนโต้, ลูอิส ฮอลล์, เทย์เลอร์ ฮาร์วู้ด-เบลลิส และอีกหลายๆคน ลงสนามไปสร้างผลงานน่าประทับใจ ไล่ทุบไอร์แลนด์ขาดลอยในครึ่งหลัง 5-0 การันตีเลื่อนชั้นกลับมาเล่นลีกเอแน่นอนแล้ว ในยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก

อังกฤษ
Starting Formation: 4-2-3-1

1.

จอร์แดน พิคฟอร์ด

6.

มาร์ค เกฮี

2.

ไคล์ วอล์คเกอร์

62′

12.

ลูอิส ฮอลล์

14.

วาเลนติโน่ ลิฟราเมนโต้

10.

จู๊ด เบลลิงแฮม

17.

เคอร์ติส โจนส์

79′

4.

คอเนอร์ กัลลาเกอร์

75′

9.

แฮร์รี่ เคน

11.

แอนโธนี่ กอร์ดอน

75′

23.

โนนี่ มาดูเอเก้

75′

ตัวสำรอง

18.

โอลลี่ วัตกิ้นส์

3.

ริโก้ ลูอิส

8.

อังเคล โกเมส

79′

21.

โดมินิค โซลันกี้

75′

22.

เจมส์ แทรฟฟอร์ด

15.

จาเรลล์ ควอนซาห์

16.

เทย์เลอร์ ฮาร์วู้ด-เบลลิส

62′

20.

จาร์รอด โบเว่น

75′

13.

ดีน เฮนเดอร์สัน

19.

มอร์แกน โรเจอร์ส

75′

7.

มอร์แกน กิบบ์ส-ไวท์

ผู้จัดการทีม

ลี คาร์สลีย์

ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ลีกบี กลุ่ม 2

สนาม เวมบลีย์
วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2567
กรรมการ เอริค แลมเบรชท์ส

อังกฤษ
5
0
ไอร์แลนด์

1-0 เคน 53′ (Pen.)2-0 กอร์ดอน 55’3-0 กัลลาเกอร์ 58’4-0 โบเว่น 76’5-0 ฮาร์วู้ด-เบลลิส 79′

สิงโตคำราม อังกฤษ นำโด่งเป็นจ่าฝูง ลีกบี กลุ่ม 2 พวกเขาจะได้เลื่อนชั้นกลับไปเล่นลีกเอทันทีถ้าหากชนะไอร์แลนด์ได้ในวันนี้

ลี คาร์สลีย์ จะคุมทีมชาติชุดใหญ่เกมนี้เป็นนัดสุดท้าย เขาเลือกส่ง แฮร์รี่ เคน เป็นตัวจริงหลังไม่ได้เล่นเกมชนะกรีซเมื่อวันพฤหัสบดี โดยโอลลี่ วัตกิ้นส์ หมุนเวียนกลับไปนั่งเป็นสำรอง ขณะที่ ไคล์ วอล์คเกอร์ จะต้องเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็กจำเป็นอีกครั้ง

นอกจากนี้เราจะได้เห็น ติโน่ ลิฟราเมนโต้ เดบิวต์เล่นทีมชุดใหญ่นัดแรก รวมไปถึง ลูอิส ฮอลล์ อีกแข้งสายเลือดใหม่ที่ได้รับโอกาสเล่นเป็นตัวจริง

5′

มาดูเอเก้แหวก 3 สิงโตเกือบนำไว
อังกฤษ ครองบอลเหนือกว่าตั้งแต่เริ่มเกม และมีลุ้นจาก มาดูเอเก้ แหวกหลบ 3 กองหลังได้ยิงมุมแคบติดเซฟ โจนส์ พยายามยิงไกลซ้ำก็ติดบล็อคออกหลังอีก ได้แค่เตะมุม

20′

สิงโตถ่ายบอลนวดไปเรื่อยๆ ไม่รีบ
เกมแทบจะวันเวย์ อังกฤษดีกว่ามาก ครองบอลบุกตลอด แต่เหมือนเกมรุกยังไม่ได้เร่งอะไรมากมายนัก ค่อยๆ เคาะบอลหาที่ว่างเจาะไปเรื่อยๆ

29′

มาดูเอเก้มีโอกาสแต่ยิงติดบล็อค
โอกาสมาเข้าทาง มาดูเอเก้ ได้บอลหน้าประตู แต่จังหวะสุดท้ายยิงไปติดบล็อคอีก

36′

เกมสิงโตหนักขวาเห็นได้ชัด
เกมขึ้นทางมาดูเอเก้เยอะ แต่ปีกเชลซียังเด็ดขาดไม่พอช่วยทีมได้เบิกสกอร์ขึ้นนำ

45+2′

ท้ายครึ่ง โอกาสลุ้นยังถือว่าน้อยมาก
จบท้ายครึ่งแรก อังกฤษ ก็ยังหาโอกาสจะแจ้งลุ้นทำประตูไม่ได้เลย แถมจังหวะนี้เรามีช็อตปะทะกันของ เคน กับ โมลุมบี้ สุดท้ายรับใบเหลืองไปสงบจิตสงบใจ

HALF TIME

51′

ไอร์แลนด์เหลือ 10 คน-เสียจุดโทษ
กลับมาเล่นครึ่งหลัง เกมรับไอร์แลนด์สมาธิหลุดเสี้ยวินาทีชีวิตเปลี่ยนทันที เมื่อเปิดช่องให้ จู๊ด สอดขึ้นมารับบอลในกรอบ จังหวะกำลังจะล็อคหนีกองหลัง เขาถูกสเคลส์เลาะเข้าที่ข้อเท้า

ผู้ตัดสินไม่ปราณี ให้ใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม พร้อมให้จุดโทษกับเจ้าถิ่น

53′

เคนสังหารมั่นใจปลดล็อค 1-0
เคน รับหน้าที่สังหาร ยิงอย่างมั่นใจไปทางขวาให้อังกฤษปลดล็อคขึ้นนำ 1-0

56′

ไอร์แลนด์พลาดอีก กอร์ดอนยิงโล่งๆ 2-0
ประตูแรกมา สกอร์ก็ไหลเพิ่มเป็น 2-0 ทันที จากลูกเปิดสุดเส้นหลัง ผู้เล่นไอร์แลนด์สกัดบอลพลาดปลิ้นมาเข้าทางปืน กอร์ดอน วอลเล่ย์ง่ายๆ หวานหมูเลย

58′

กัลลาเกอร์ชาร์จจ่อๆ สกอร์ไหล 3-0
ยาวปายๆๆๆๆๆๆ!! อังกฤษหนีเป็น 3-0 จากลูกเตะมุม เกฮี โหม่งเช็คมาเสาสองเข้าทางปืน กัลลาเกอร์ ชาร์จจ่อๆ เข้าไป

ภาพช้าจาก VAR ยืนยันจังหวะที่มิดฟิลด์ตราหมีสอดขึ้นมาทำประตูไม่ล้ำหน้าด้วย

62′

สิงโตส่งฮาร์วู้ด-เบลลิสโชว์ผลงานบ้าง
เกมมันขาดแล้ว อังกฤษส่งอีก 1 สายเลือดใหม่อย่า ฮาร์วู้ด-เบลลิส ลงสนามมาเล่นแทนวอล์คเกอร์

76′

โบเว่นลงปุ๊ปยิงปั๊ปได้ทันที 4-0
โบเว่นเปลี่ยนตัวลงมาสังผัสแรกก็ทำประตูได้เลย จากฟรีคิกสูตร เปิดเรียดมาให้ โบเว่นยิงจังหวะแรกไม่ต้องจับ มีกัลลาเกอร์คอยสกรีนเปิดทางไว้ให้ 4-0

79′

สนุกอยู่ข้างเดียว ฮาร์วู้ด-เบลลิสโขก 5-0
มีความสุขกันถ้วนหน้า อังกฤษมาได้ประตู 5-0 จากอีกหนึ่งตัวสำรอง ฮาร์วู้ด-เบลลิส เทคตัวโขกลูกครอสผ่านมือเคลเลเฮอร์เข้าประตูไป

88′

โบเว่นเกือบกดเพิ่มได้อีกลูก
อังกฤษเกือบได้อีกประตูจากโบเว่นยิงตามน้ำเหมือนเดิมเลย แต่คราวนี้ติดเซฟเคลเลเฮอร์

หมดเวลาการแข่งขันอังกฤษถล่มไอร์แลนด์กระเจิง 5-0

ไอร์แลนด์
Starting Formation: 4-5-1

1.

ควิวิน เคลเลเฮอร์

5.

เลียม สเคลส์

20.

มาร์ค แมคกินเนสส์

22.

เนธาน คอลลินส์

3.

คัลลัม โอดอว์ด้า

66′

4.

ดารา โอเช

6.

จอช คัลเลน

76′

8.

เจย์สัน โมลุมบี้

7.

แซมมี่ ซโมดิชส์

21.

เฟสตี้ เอโบเซเล่

66′

8.

อีแวน เฟอร์กูสัน

66′

ตัวสำรอง

16.

แม็กซ์ โอเลียรี่

15.

ไรอัน แมนนิ่ง

66′

2.

แมตต์ โดเฮอร์ตี้

13.

แอนดี้ โมรัน

76′

18.

เคซี่ แมคเคเทียร์

14.

ฟินน์ อาซาซ

66′

19.

โธมัส แคนนอน

12.

เจค โอไบรอัน

23.

มาร์ค เทรเวอร์ส

10.

ทรอย แพร์รอตต์

66′

11.

ไมเคิล จอห์นสตัน

17.

คอเนอร์ โคเวนทรี

ผู้จัดการทีม

ไฮเมียร์ ฮอลล์กริมสสัน