บังโมปิดท้าย! ‘หงส์’ โดนไวรัวแซงจิ้งจอก 3-1 นำฝูงชิล


ลิเวอร์พูล ไม่พลาดคว้า 3 คะแนนตามเป้า แม้โดนนำไก่โห่จาก จอร์แดน อายิว แต่ครองเกมเหนือกว่ามากก่อนยิงคืนสามประตูรวดจาก โคดี้ กัคโป, เคอร์ติส โจนส์ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พลิกเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ 3-1 นำโด่งจ่าฝูงหนีห่าง เชลซี 7 แต้ม แถมแข่งน้อยกว่า 1 นัด

ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-3-3

1.

อลิสซอน เบ็คเกอร์

66.

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

2.

โจ โกเมซ

4.

เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค

26.

แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน

86′

38.

ไรอัน กราเฟนเบิร์ค

87′

10.

อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์

90+2′

17.

เคอร์ติส โจนส์

78′

11.

โมฮาเหม็ด ซาลาห์

9.

ดาร์วิน นูนเญซ

78′

18.

โคดี้ กัคโป

ตัวสำรอง

62.

ควีวิน เคลเลเฮอร์

21.

คอสตาส ซิมิคาส

86′

78.

จาเรลล์ ควอนซาห์

3.

วาตารุ เอ็นโด

87′

8.

โดมินิค โซบอสซ์ไล

78′

14.

เฟเดริโก้ เคียซ่า

19.

ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์

90+2′

7.

หลุยส์ ดิอาซ

20.

ดิโอโก้ โชต้า

78′

ผู้จัดการทีม

อาร์เน่อ สล็อท

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

สนาม แอนฟิลด์
พฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม 2567
กรรมการ ดาร์เรน บอนด์

ลิเวอร์พูล
3
1
เลสเตอร์ ซิตี้

1-1 โคดี้ กัคโป 45+1’2-1 เคอร์ติส โจนส์ 49’3-1 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 82′
0-1 จอร์แดน อายิว 6′

ลิเวอร์พูล ยังคงหมดสิทธิ์ใช้งาน 2 กองหลังอย่าง อิบราฮิมา โคนาเต้ กับ คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์ ที่พักรักษาอาการบาดเจ็บ

ข่าวดีของเจ้าบ้านคือ ดิโอโก้ โชต้า หายเจ็บสะโพกกลับมามีชื่อสำรองอีกครั้ง

ฝั่งของ เลสเตอร์ ซิตี้ ขาด เจมี่ วาร์ดี้ กัปตันทีมที่เจ็บ เพราะงั้นจึงใช้ แพทสัน ดาก้า ลุยแทน

อีกตำแหน่งสำคัญคือผู้รักษาประตู เมดส์ เฮอร์แมนเซ่น ยังไม่ฟื้น แต่ทีมเยือนเลือกใช้ ยาคุบ สโตลาร์ซิค ลงเฝ้าเสาก่อนหน้า แดนนี่ วอร์ด

4′

ซาลาห์ ซัดมุมแคบเกือบเป็นประตู
เริ่มเกมมา ลิเวอร์พูล บุกเข้าใส่ตามถนัดแล้วก็เกือบได้ประตูขึ้นนำเร็ว บอลครอสจาก กัคโป ไปยัง ซาลาห์ ที่รอเสาสองตวัดยิงด้วยขวาติดเซฟ สโตลาร์ซิค

6′

เซอร์ไพรส์! อายิว กลับตัวยิงให้จิ้งจอกนำ 1-0
โอกาสครั้งแรกของ เลสเตอร์ แล้วเป็นประตูขึ้นนำเลย บอลจาก มาวิดิดี้ เปิดหักเข้าในให้ อายิว พิงใส่ โรเบิร์ตสัน เหลี่ยมดีกว่าแล้วกลับตัวยิงแฉลบ ฟาน ไดจ์ค เสียบเสาแรกเลย

12′

นูนเญซ โขกโดนบางไปหน่อย
หลังโดนนำ ลิเวอร์พูล พยายามบุกเอาประตูตีเสมอทันที จังหวะนี้ โรเบิร์ตสัน บรรจงเปิดด้วยซ้ายเข้าเขตโทษ นูนเญซ โหนโหม่งโดนบาง ๆ เลยไปเสาไกล

18′

หมอกหนาตา ผู้ชมทางบ้านมองยากมาก
ก่อนเกมมีข่าวว่าอาจต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากหมอกเล่นงาน แต่สุดท้ายมีการประเมินแล้วว่าแข่งกันต่อได้ จนถึงตอนนี้หมอกหนามาก ๆ ทำให้เกมที่รับชมทางถ่ายทอดสดกลายเป็นอุปสรรค

23′

กัคโป ตัดเข้าในยิงข้ามคานไม่ห่าง
เจ้าบ้านบุกหนักแล้วใกล้เคียงที่จะได้ประตูตีเสมอจากลูกยิงของ กัคโป ตัดเข้าในปั่นด้วยขวา ข้ามคานได้ลุ้นเลย

24′

ซาลาห์ ซัดแฉลบข้ามคานนิดเดียว
ลิเวอร์พูล โอกาสยิงต่อเนื่องเลย คราวนี้ ซาลาห์ บ้างแต่จังหวะยิงไปติดแฉลบ เวสเตอร์การ์ด บอลค่อย ๆ ย้อยข้ามคาน ชนิดที่ สโตลาร์ซิค ได้แค่มองแล้ว

25′

โรเบิร์ตสัน โขกชนเสากระเด้งโดน สโตลาร์ซิค เกือบเข้าอีก
น่าได้แบบสุด ๆ สำหรับ ลิเวอร์พูล หนนี้ เทรนท์ ครอสอย่างแม่นให้ โรเบิร์ตสัน ไปลุ้นประตูในเขตโทษแล้วโหม่งสะบัดชนเสากระเด้งโดน สโตลาร์ซิค ออกหลัง

41′

เทรนท์ ส่องไกลหลุดไปเยอะ
เกมรับของ เลสเตอร์ ช่วยกันดีมาก ๆ ทำให้ ลิเวอร์พูล เริ่มตัน ๆ แล้วเหมือนกัน เทรนท์ ลองยิงไกลบ้างแต่หลุดกรอบไปไกล

45′

คานช่วยไว้! ซาลาห์ เกือบตีเสมอให้เจ้าบ้าน
ลิเวอร์พูล อดได้ประตูตีเสมออย่างน่าเสียดาย บอลเคลียร์ไม่พ้นของแนวรับทีมเยือน เข้าทาง ซาลาห์ ได้ปั่นด้วยซ้ายข้างถนัดบอลชนคานเต็ม ๆ ออกหลัง

45+1′

จนได้! กัคโป ปั่นโค้ง ๆ ให้หงส์ตีเสมอ 1-1
ความพยายามประสบผลสำเร็จสำหรับ ลิเวอร์พูล จังหวะนี้ แม็ค อัลลิสเตอร์ จ่ายให้ กัคโป เงยหน้ามองแล้วปั่นหนีมือ สโตลาร์ซิค เสียบเสาไกลเข้าไปสวยงาม

HALF TIME

47′

นูนเญซ แปโด่งข้ามคาน
ครึ่งหลังเริ่มไม่ทันไร ลิเวอร์พูล กระโจนเข้าใส่ เลสเตอร์ ทันทีแล้วได้ลุ้นประตูแซงนำ จังหวะสอดของ กราเฟนเบิร์ค จ่ายย้อนให้ นูนเญซ แปข้ามคาน

49′

โจนส์ แปง่าย ๆ หงส์แซง 2-1
ลิเวอร์พูล มาได้ประตูแซงขึ้นนำจนได้ บอลขลุกขลิกในเขตโทษ ซาลาห์ จ่ายให้ แม็ค อัลลิสเตอร์ จ่ายยัดให้กับ โจนส์ แปง่าย ๆ เข้าไป มี VAR ทักท้วงอาจมีจังหวะล้ำหน้าแต่ยืนยันแล้วว่าเป็นประตูตามเดิม

60′

บอลสวนทีมเยือน แพทสัน ยิงแป้ก
บอลสวนกลับของ เลสเตอร์ สร้างปัญหาให้เจ้าบ้านได้เหมือนกัน แล้วจังหวะนี้ถือเป็นโอกาสทองของพวกเขาเลย มาวิดิดี้ จ่ายเรียด ๆ เข้าในให้ ดาก้า ยิงแป้กเฉยเลย โดนบอลก่อน ฟาน ไดจ์ค ด้วยซ้ำ

62′

นูนเญซ ซัดติดเซฟ สโตลาร์ซิค
ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูที่สาม ซาลาห์ จ่ายให้ นูนเญซ ยิงตามน้ำติดเซฟ สโตลาร์ซิค ใช้มือป้องกันได้แบบหวุดหวิด

63′

กัคโป ขวิดเข้าซอง สโตลาร์ซิค
เจ้าบ้านโอกาสต่อเนื่อง เทรนท์ เก็บบอลจังหวะสองได้ แล้วเปิดโค้งเข้าเขตโทษให้ กัคโป โหม่งไปเข้ามือ สโตลาร์ซิค

68′

กัคโป ยิงเข้าแต่ล้ำหน้า นูนเญซ
ลิเวอร์พูล อดได้ประตูที่สาม บอลจาก กราเฟนเบิร์ค ตักบอลให้ ซาลาห์ จ่ายยัดต่อ นูนเญซ ยิงไม่โดน โคดี้ สกัดเข้าทาง กัคโป ยิงเข้าไป แต่ VAR เช็คว่า นูนเญซ ก่อน

79′

หงส์บุกต่อ! ซาลาห์ ยิงตรงตัว สโตลาร์ซิค
หลังขึ้นนำ ลิเวอร์พูล ไม่โหมหนักนักแต่ก็ได้ลุ้นเรื่อย ๆ เทรนท์ แทงให้ ซาลาห์ ยิงไปตรงตัว สโตลาร์ซิค

82′

เหลือเกิน! ซาลาห์ ปั่นเสียบเสาไกลเข้าเฉย หงส์หนี 3-1
ลิเวอร์พูล มาได้ประตูที่สาม โอกาสคว้า 3 แต้มสูงมาก ๆ แล้ว บอลจาก กัคโป จ่ายให้ ซาลาห์ รับบอลแล้วดึงจังหวะก่อนเลือกปั่นอ้อม คริสเตียนเซ่น เสียบเสาไกลเข้าไปอย่างงดงาม

จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดบ้านพลิกแซงชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 42 คะแนนจาก 17 เกม

เลสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-2-3-1

41.

ยาคุบ สโตลาร์ซิค

2.

เจมส์ จัสติน

4.

คอเนอร์ โคดี้

90+5′

23.

ยานนิค เวสเตอร์การ์ด

16.

วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น

24.

บูบาการี่ ซูมาเร่

8.

แฮร์รี่ วิงค์ส

65′

18.

จอร์แดน อายิว

11.

บิลาล เอล คานนูส

64′

10.

สเตฟี่ มาวิดิดี้

87′

20.

แพทสัน ดาก้า

ตัวสำรอง

31.

ดาเนี่ยล อิเวอร์เซ่น

5.

คาเล็บ โอโคลี่

90+5′

33.

ลุค โธมัส

17.

ฮัมซ่า เชาดูรี่

22.

โอลิเวอร์ สกิปป์

65′

37.

วิลเลี่ยม อัลเวส

40.

ฟาคุนโด้ บัวนาน็อตเต้

64′

14.

บ็อบบี้ เด คอร์โดวา-รีด

87′

29.

อ็อดซอนน์ เอดูอาร์

ผู้จัดการทีม

รุด ฟาน นิสเตลรอย