บิลเบา vs โซเซียดัด : ดาร์บี้แมตช์แคว้นบาสก์ ลุ้นพื้นที่บอลยุโรป
#SSxLaLiga | แอธเลติก บิลเบา และเรอัล โซเซียดัด 2 สโมสรคู่ปรับจากแคว้นบาสก์ที่เคยผลัดกันครองความยิ่งใหญ่ในช่วงยุค 1980s จนกระทั่งถึงปัจจุบันทั้งคู่ก็ยังต่อสู้กันอย่างดุเดือดและเข้มข้นเหมือนเช่นในอดีต
แต่สำหรับบาสก์ ดาร์บี้ จะแตกต่างจากดาร์บี้แมตช์อื่นๆ ตรงที่ไม่มีอารมณ์แห่งความเกลียดชัง แฟนๆ ทั้งสองทีม มีบรรยากาศในการเชียร์ฟุตบอลร่วมกันได้ราวกับเป็นพี่น้อง เพราะพวกเขามาจากรากเหง้าเดียวกัน
ฟุตบอลลาลีกา สเปน เกมที่ 14 ของฤดูกาล คู่ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ศึกดาร์บี้แมตช์แห่งแคว้นบาสก์ แอธเลติก บิลเบา เปิดถิ่นซาน มาเมส ต้อนรับเรอัล โซเซียดัด ในคืนวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายนนี้ เวลา 03.00 น.
แอธเลติก บิลเบา เสมอคู่แข่งในลาลีกามาแล้ว 3 เกมติดต่อกัน กับเรอัล มายอร์ก้า 0 – 0, เรอัล เบติส 1 – 1 และเรอัล บายาโดลิด 1 – 1 ซึ่งเมื่อนับรวม 6 เกมหลังสุดในลีก ชนะเกมเดียว คือเกมถล่มเอสปันญ่อล 4 – 1
เรอัล โซเซียดัด ฟอร์มการเล่นในช่วงหลังดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกมล่าสุดคือการเปิดบ้านเอาชนะบาร์เซโลน่า 1 – 0 เป็นการชนะ 2 เกมติดต่อกันได้เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ และคว้าชัยได้ถึง 4 จาก 6 เกมหลังสุดในลาลีกา
สถิติการพบกันในลาลีกา 154 ครั้งที่ผ่านมา บิลเบา ชนะ 62 ครั้ง โซเซียดัด ชนะ 53 ครั้ง และเสมอกัน 39 ครั้ง ส่วนในแง่ของความสำเร็จ “โลส เลโอเนส” คว้าแชมป์ไป 8 สมัย ขณะที่ “ลา เรอัล” คว้าแชมป์ได้ 2 สมัย
อย่างไรก็ตาม 2 ฤดูกาลหลังสุดที่บิลเบา และโซเซียดัด ได้เผชิญหน้ากันในลาลีกา ต่างฝ่ายต่างคว้าชัยบ้านใครบ้านมันฝั่งละ 2 เกม ที่บ้านของบิลเบา ชนะ 2 – 0 กับ 2 – 1 ส่วนที่บ้านของโซเซียดัด ชนะ 3 – 1 กับ 3 – 0
ก่อนที่จะดวลแข้งกันในดาร์บี้แมตช์ บิลเบามีคะแนนมากกว่าโซเซียดัดเพียง 2 แต้มเท่านั้น ซึ่งเป้าหมายหลักของทั้งคู่ คือการคว้าตั๋วลุยศึกยูฟ่า ยูโรป้า ลีก แต่ก็ยังมีหวังเล็กๆ ในการไปถึงพื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
นักเตะที่น่าจับตามองของทั้ง 2 ทีม ฝั่งบิลเบานำโดยออยอาน ซานเซ็ต, กอร์ก้า กูรูเซต้า รวมถึง 2 พี่น้อง อินญากี้ และนิโก้ วิลเลี่ยมส์ ส่วนฝั่งโซเซียดัดนำโดยทาเคฟุสะ คุโบะ, มิเกล โอยาซาบัล และมาร์ติน ซูบีเมนดี้
ศึกรวมแข้งชุดแชมป์ยูโรกับทีมชาติสเปน
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ทีมชาติสเปนคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 2024 อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งมีนักเตะหลายคนของทั้งแอธ
เลติก บิลเบา และเรอัล โซเซียดัด ที่มีส่วนร่วมในความสำเร็จกับโทรฟี่ระดับทวีปครั้งนี้ด้วย
คืนวันอาทิตย์นี้ จะมีแข้งสเปนชุดแชมป์ยูโร ที่มีโอกาสลงสนามในเกมดาร์บี้แมตช์ 5 คน ฝั่งบิลเบามีชื่อของนิโก้ วิลเลียมส์ กับดานี่ วิเวียน ส่วนอูไน ซิม่อน นายทวารที่ร่วมคว้าแชมป์ด้วย พลาดลงเล่นเนื่องจากบาดเจ็บ
ทางฝั่งโซเซียดัด ประกอบด้วย มาร์ติน ซูบีเมนดี้, มิเกล โอยาซาบัล และอเล็กซ์ เรมิโร่ นอกจากนี้ มิเกล เมริโน่ รวมถึงโรบิน เลอ นอร์กม็องต์ อดีตนักเตะของลา เรอัล ก็ได้สัมผัสกับแชมป์ยุโรปสมัยที่ 4 ของทัพกระทิงดุ
นิโก้ วิลเลียมส์ คือหนึ่งในนักเตะดาวรุ่งที่แจ้งเกิดในยูโร 2024 ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง 6 จาก 7 เกมในทัวร์นาเมนท์ดังกล่าว และได้สร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำ คือการยิงประตูขึ้นนำอังกฤษ 1 – 0 ในครึ่งแรกของรอบชิงชนะเลิศ
ส่วนในครึ่งหลังของแมตช์เดียวกันนี้ มาร์ติน ซูบิเมนดี ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนโรดรี้ เจ้าของรางวัลบัลลง ดอร์ คนล่าสุด ที่ได้รับบาดเจ็บ และมิเกล โอยาซาบัล เป็นผู้ยิงประตูชัย 2 – 1 ในช่วง 5 นาทีสุดท้ายของการแข่งขัน
การดวลกันของ 2 กุนซือที่มีสไตล์คล้ายกัน
เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ และอิมานอล อัลกูอาซิล ได้ร่วมงานกับแอธเลติก บิลเบา และเรอัล โซเซียดัด ตามลำดับ ตั้งแต่เป็นผู้เล่นในช่วงยุค 1990s จนถึงปัจจุบันที่ต่างฝ่ายต่างก็เป็นผู้จัดการทีมให้กับสโมสรของตัวเอง
บัลเบร์เด้ ทำหน้าที่คุมบิลเบามาแล้ว 3 รอบ ผลงานดีสุดคือการจบอันดับ 4 ในฤดูกาล 2014/15 ส่วนผลงานในซีซั่นที่แล้ว คว้าแชมป์โกปา เดล เรย์ และจบอันดับที่ 5 ในลีก เหนือกว่าโซเซียดัดเป็นหนแรกในรอบ 5 ปี
อัลกูอาซิล เริ่มรับงานคุมโซเซียดัดมาตั้งแต่ปี 2018 คว้าแชมป์โกปา เดล เรย์ 1 สมัย ด้านผลงานในซีซั่นที่แล้ว ได้อันดับที่ 6 มีคะแนนน้อยกว่าบิลเบา 8 แต้ม แต่ยังทำสถิติคว้าโควตาฟุตบอลยุโรปเป็นซีซั่นที่ 5 ติดต่อกัน
สไตล์การทำทีมของทั้ง 2 กุนซือ ถือว่ามีความคล้ายคลึงกัน คือใช้การเพรสซิ่งสูง และแย่งบอลในแดนของคู่แข่ง ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่อัลกูอาซิล พาโซเซียดัด ล้มทีมที่มีฟอร์มสุดแกร่งอย่างบาร์เซโลน่าได้อย่างน่าประทับใจ
ทางฝั่งบิลเบา มีจุดเด่นในจังหวะดวลตัวต่อตัวที่มีความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะการเล่นลูกกลางอากาศ แล้วในช่วงหลัง บัลเบร์เด้ ได้ให้นักเตะอย่างเบนญาต ปราโดส มิดฟิลด์วัย 23 ปี ทำหน้าที่คอนโทรลเกมในแดนกลาง
แม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงต้นฤดูกาล แต่ศึกชิงความเป็นหนึ่งแห่งแคว้นบาสก์ในสุดสัปดาห์นี้ อาจส่งผลต่อแรงจูงใจของทั้งแอธเลติก บิลเบา และเรอัล โซเซียดัด กับโอกาสลุ้นโควตาฟุตบอลยุโรปในเส้นทางที่เหลือของซีซั่น
24 พฤศจิกายน 2567 18:05:11 โดย
sw88.admin
5 ยอดผู้ชม