แค่ส่งบอลมา..’ฮาลันด์’ โกงเกิ๊น!! จัดอีก 2 เรือโดนก่อนเฮ 2-1


เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ตัวอีดิท โกงเพื่อนสุดๆ ล่าสุดเหมาทำคนเดียว 2 ประตูช่วย เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลิกสถานการณ์จากตกเป็นรอง ผึ้งน้อย เบรนท์ฟอร์ดตั้งแต่นาทีแรก ให้กลับมาแซงชนะ 2-1 (น.19, 32) พาทีมเก็บชัยชนะรวดทั้ง 4 นัด นำโด่งเป็นจ่าฝูง ขณะที่ยอดสะสมประตูของจอมมารบูเพิ่มเป็นลูกที่ 9 เข้าไปแล้ว

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-2-3-1

31.

เอแดร์ซอน

5.

จอห์น สโตนส์

25.

มานูเอล อคานยี่

82.

ริโก้ ลูอิส

46′

2.

ไคล์ วอล์คเกอร์

17.

เควิน เดอ บรอยน์

8.

มาเตโอ โควาซิช

46′

19.

อิลคาย กุนโดกัน

9.

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์

10.

แจ๊ค กรีลิช

26.

ซาวิโอ

ตัวสำรอง

3.

รูเบน ดิอาส

87.

เจมส์ แมคอาตี้

16.

โรดรี้

46′

20.

แบร์นาร์โด้ ซิลวา

18.

สเตฟาน ออร์เตก้า

47.

ฟิล โฟเด้น

11.

เจเรมี่ โดกู

27.

มาธีอัส นูเนส

24.

ยอสโก้ กวาร์ดิโอล

46′

ผู้จัดการทีม

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม
วันเสาร์ที่ 14 กันยายน 2567
กรรมการ ดาร์เรน บอนด์

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
2
1
เบรนท์ฟอร์ด

1-1 ฮาลันด์ 20’2-1 ฮาลันด์ 32′
0-1 วิสซ่า 1′

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ตัดสินใจอยู่ช่วยทีมต่อไปไม่ลาแคมป์กลับไปงานศพคนสนิท เราได้เห็น จอห์นส สโตนส์ เป็นตัวจริงในเกมรับ เช่นเดียวกับ อิลคาย กุนโดกุน ได้เป็นตัวจริงนัดแรกหลังย้ายกลับมาสโมสรอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม เป๊ป พักตัวหลักหลายรายไว้รอเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก หนึ่งในนั้นคือ โรดรี้ หัวใจแดนกลางคนสำคัญของทีม

เบรนท์ฟอร์ด เปลี่ยน 2 ตำแหน่งจากเกมชนะเซาแธมป์ตัน เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก กับ คีน ลูอิส-พอตเตอร์ ได้สตาร์ตเป็นตัวจริง

1′

ผึ้งทำช็อกพลิกนำเร็ว 1-0
แค่ 25 วินาที เบรนท์ฟอร์ด พลิกได้ประตูขึ้นเร็วจากความผิดพลาดของ สโตนส์ และ เอแดร์ซอน เคลียร์บอลหน้าปากประตูวืด ลูกปลิ้นมาเข้าทาง วิสซ่า โหม่งโล่งๆที่เสาไกลเข้าไป

9′

เรืองานหยาบ เจอผึ้งทำการบ้านมาดี
แมนฯซิตี้ งานลำบากแล้ว วันนี้เบรนท์ฟอร์ดมาดีจริงๆ รูปเกมหลังได้ประตูออกนำยังทำได้ดีกว่าเจ้าถิ่น จังหวะนี้น่าได้อีกลูกจาก คอลลินส์ แปเน้นๆลูกเตะมุมไปให้เอแดร์ซอนออกแรงเซฟ

20′

ฮาลันด์จมูกไวซัดตีเสมอ 1-1
ฮาลันด์ ชั่วโมงนี้มั่นใจสุดๆ แค่ส่งบอลมา เดี๋ยวหอกนอร์วีเจี้ยนยิงเอง จังหวะนี้แนวรับพยายามสกัดบอลจากเดอ บรอยน์ บอลปลิ้นมาให้ ฮาลันด์ ตวัดยิงคมกริบแฉลบกองหลังเข้าประตูไป 1-1 แล้ว

30′

ภาพรวมผึ้งยังสู้ได้สูสีอยู่
เกมผ่านครึ่งชั่วโมง เกมค่อนข้างสูสีกัน ภาพรวมเบรนท์ฟอร์ดยังสู้กับแมนฯซิตี้ได้ดี

32′

ฮาลันด์โหดสัสหลุดเดี่ยวครึ่งสนามยิง 2-1
เก่งชิบ!! ส่งบอลให้เขา เดี๋ยวเขายิงเอง ฮาลันด์ รับบอลวางยาวจากเอแดร์ซอน ใช้ตัวบังเหลี่ยมบอลชนะพินน็อคได้หลุดเดี่ยวครึ่งสนามเข้าไปยิงผ่านมือเฟลคเค่นเข้าประตูไป 2-0 และเป็นประตูที่ 9 ของเขาในซีซั่นนี้แล้ว แถมยังได้ลุ้นทำแฮตทริก 3 นัดติตต่อกันอีก

ที่สำคัญนี่คือแอสซิสต์ที่ 4 ในพรีเมียร์ลีกของเอแดร์ซอน มากกว่าแอนโทนี่ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดซะอีก

40′

เกมเรือดูผ่อนคลายมากขึ้น
เข้าช่วงท้ายครึ่ง เกมแมนฯซิตี้ดูผ่อนคลายมากขึ้นหลังได้ประตูแซงกลับขึ้นมานำได้สำเร็จ

45+1′

วิสซ่าเจ็บต้องเปลี่ยนตัวออก
วิสซ่า เจ็บจากจังหวะเข้าปะทะกับโควาซิช ปฐมพยาบาลอยู่พักหนึ่งสุดท้ายเล่นไม่ไหว กะเผลกออกจากสนามไป เป็น ชาเดอ ลงมาเล่นแทน

HALF TIME

46′

เรือส่งโรดรี้, กวาร์ดิโอลลงสนาม
ครึ่งหลัง แมนฯซิตี้ ปรับเปลี่ยนทีมส่ง โรดรี้ กับกวาร์ดิโอล เล่นแทนโควาซิชและลูอิส

55′

รูปเกมเรือยังถือว่าน่าผิดหวัง
เกมรุกของแมนฯซิตี้ยังทำได้น่าผิดหวัง สกอร์ที่นำแค่ลูกเดียว มันยังไม่ปลอดภัย

60′

ผึ้งรูปเกมดีกว่าเรือ น่าตีเสมอได้สุดๆ
เบรนท์ฟอร์ดเกมดีกว่า เป็นฝ่ายเดินเกมรุกใส่แมนฯซิตี้ จังหวะนี้โต้กลับตัวมากกว่าแต่ชาเดอจ่ายจังหวะสุดท้ายไม่ดีทำเสียของ

67′

เฟลคเค่นซูเปอร์เซฟลูกยิงกรีลิช
โอกาสของแมนฯซิตี้ จากกรีลิช ปั่นโค้งให้ เฟลคเค่นออกแรงพุ่งปัดบอลทิ้งที่เสาไกล

69′

ฮาลันด์เกือบทำแฮตทริกได้
ฮาลันด์มีลุ้นแฮตทริกจากกุนโดกัน ไหลบอลคืนหลังตั้งให้ฮาลันด์ซัดเน้นๆ ติดเซฟปลายมือเฟลคเค่น

72′

วอล์คเกอร์ยิงไกลหลุดคานนิดเดียว
แมนฯซิตี้มาเป็นชุด คราวนี้วอล์คเกอร์ลองยิงไกล บอลเบียดคานออกหลังนิดเดียว

76′

ซาวิโอได้ล่อเป้ายิงติดเซฟเฟลคเค่น
กวาร์ดิโอล สอดเข้ากลางได้หลุดเข้าเขตโทษ ไม่ยิงแต่ไหลต่อให้ซาวิโอได้ยิงคนเดียวโล่งๆทางขวาไปติดเซฟเฟลคเค่น

81′

ฮาลันด์ล้นแฮตทริกต่อไป
ฮาลันด์มีโอกาสกดอีก 2 หนติดๆ ก็ติดบล็อคหมด แฮตทริกยังไม่มา

เบรนท์ฟอร์ดพยายามเต็มที่ แต่ไล่ตามตีเสมอไม่สำเร็จ จบเกมแมนฯซิตี้เบียดชนะ 2-1 พร้อมฟอร์มสุดยอดของฮาลันด์

เบรนท์ฟอร์ด
Starting Formation: 5-3-2

1.

มาร์ค เฟลคเค่น

5.

เอธาน พินน็ฮค

4.

เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก

27.

วิตาลี่ จาเนลท์

72′

22.

เนธาน คอลลินส์

6.

คริสเตียน นอร์การ์ด

24.

มิคเคล ดัมส์การ์ด

20.

คริสโตเฟอร์ อาเยอร์

72′

11.

ยอน วิสซ่า

45+1′

23.

คีน ลูอิส-พอตเตอร์

19.

ไบรอัน เอ็มเบอโม่

ตัวสำรอง

12.

ฮากอน ราฟ์น วัลดิมาร์สสัน

16.

เบน มี

28.

ไรอัน เทรวิตต์

14.

ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่

72′

30.

แมดส์ โรร์สเลฟ

72′

18.

เยเออร์ ยาร์โมลุค

7.

เควิน ชาเดอ

45+1′

26.

ยูนุส โคนัค

21.

เจย์เด้น เมโกม่า

ผู้จัดการทีม

โธมัส แฟรงค์